วันพุธที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2566

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกบอกลารัฐบาลลุงตู่ ชี้ล้มเหลวในการผ่าน "ร่าง พ.ร.บ.ช้างไทย"

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกบอกลารัฐบาลลุงตู่

ชี้ล้มเหลวในการผ่าน "ร่าง พ.ร.บ.ช้างไทย"

         องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย ผู้ริเริ่มเสนอ "ร่างพระราชบัญญัติปกป้องและคุ้มครองช้างไทย พ.ศ. ..." หรือ "ร่าง พ.ร.บ.ช้างไทย" ฉบับภาคประชาสังคม จัดฉายโฮโลแกรมทั่วกรุงเทพฯ วิจารณ์ความล้มเหลวของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แช่แข็งร่างฯดังกล่าวจนไม่สามารถผ่านเป็นกฎหมายได้ทันก่อนหมดวาระ พร้อมส่งข้อความถึงรัฐบาลใหม่ให้มีนโยบายปกป้องช้างอย่างเร่งด่วน

         การฉายโฮโลแกรมดังกล่าวเกิดขึ้น ณ สถานที่สำคัญ 4 แห่งที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ได้แก่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เสาชิงช้า ภูเขาทอง และสะพานพระราม 8 โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยนอกเหนือจากการชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวในการปกป้องช้างของรัฐบาลที่ผ่านมาแล้ว ยังต้องการส่งข้อความฝากไปถึงรัฐบาลใหม่ด้วยว่าไม่ว่าจะรัฐบาลไหน ก็ต้องใส่ใจคุณภาพชีวิตช้างอย่างจริงจังและเร่งยุติความทารุณโหดร้ายต่อช้างไทย

          คุณอรกร ธนชลกรณ์  ผู้อำนวยการโครงการรณรงค์ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย เปิดเผยว่า "ร่าง พ.ร.บ.ช้างไทย" ฉบับภาพประชาสังคม เป็นความพยายามเสนอกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาทารุณกรรมช้างและยกระดับสวัสดิภาพช้างทั้งระบบ เช่น ยุติกระบวนการฝึกช้างที่โหดร้ายทารุณ ยุติการผสมพันธุ์ช้างเชิงพาณิชย์ ยุติการบังคับให้ช้างแสดงพฤติกรรมที่ผิดธรรมชาติ ตั้งกองทุนเพื่อยกระดับสวัสดิภาพช้างทั่วประเทศ เป็นต้น

         "ร่าง พ.ร.บ.ช้างไทย" ฉบับภาพประชาสังคม ถูกริเริ่มโดยองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย และได้ผ่านกระบวนการเข้าชื่อเพื่อเสนอกฎหมายซึ่งมีประชาชนลงชื่อสนับสนุนกว่า 20,000 ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาผ่านการรับรองโดยรัฐสภา 15,938 คน หลังจากนั้น ร่างฯ ดังกล่าวต้องผ่านการพิจารณาจากนายกรัฐมนตรีในฐานะร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณแต่กลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ จนกระทั่งรัฐบาลประกาศยุบสภาและหมดวาระลงในที่สุด ทำให้ร่างฯ ดังกล่าวไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการต่อไปได้

“กฎหมายปกป้องคุ้มครองช้างมีความจำเป็นเร่งด่วน เพราะช้างได้รับผลกระทบอย่างมากตลอดช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย พร้อมด้วยองค์กรเครือข่าย อาสาสมัคร และผู้สนับสนุน ได้พยายามติตดามหลายครั้งแล้วแต่กลับไม่มีความคืบหน้าใดใด จนยุบสภาในที่สุด สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นความเพิกเฉยและละเลยต่อความเป็นอยู่ของช้างไทยในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า 3,000 ชีวิต ที่กำลังถูกใช้งานอย่างโหดร้ายทารุณในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ จึงเป็นที่มาของการฉายโฮโลแกรมในครั้งนี้ เพื่อสื่อสารไปยังสาธารณชนถึงความล้มเหลวดังกล่าวของรัฐบาล นายกประยุทธ์ จันโอชา” 

      สถานการณ์ที่ช้างไทยที่ถูกเพิกเฉยกับความโหดร้ายทารุณอย่างย่ำแย่ในขณะนี้ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย จึงได้เปิดตัวแคมเปญรณรงค์ใหม่ภายใต้ชื่อ ‘ให้ช้างได้กลับไปเป็นช้าง’ โดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดเผยและยุติความโหดร้ายทารุณที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการนำช้างมาใช้งานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ตลอดจนเพื่อรวบรวมพลังของผู้ที่เห็นด้วยในการส่งเสียงกดดันภาคเอกชนและภาครัฐให้เร่งปฏิรูปสวัสดิภาพช้างไทยอย่างเร่งด่วน ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://noelephantshow.worldanimalprotection.or.th/ 

เกี่ยวกับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก หรือ World Animal Protection เป็นองค์กรเพื่อคุ้มครองปกป้องสวัสดิภาพสัตว์ และยุติการทารุณกรรมสัตว์อย่างถาวร โดยสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 มีบทบาทในการให้คำปรึกษากับองค์การสหประชาชาติและสภายุโรป ทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อยกระดับสวัสดิภาพสัตว์ สร้างความแตกต่างให้สัตว์ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ถูกทารุณกรรมทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยดำเนินงานครอบคลุมทั้งสัตว์ในชุมชน – สุนัข, สัตว์ป่า - สัตว์ในฟาร์ม รวมถึงการให้ความรู้ด้านปศุสัตว์ที่มีมนุษยธรรมอันส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนและสัตว์ ข้อมูลเพิ่มเติม www.worldanimalprotection.or.th


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับสตรีที่ด้อยโอกาส

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับสตรีที่ด้อยโอกาส  ในโครงการส่งเสริ...