วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2567

"ERGO ยกระดับการดูแล ส่งต่อความห่วงใย เปลี่ยนการเดินทางให้ง่ายขึ้นตลอดช่วง 7 วันอันตราย"

"ERGO ยกระดับการดูแล ส่งต่อความห่วงใย

เปลี่ยนการเดินทางให้ง่ายขึ้นตลอดช่วง 7 วันอันตราย"

     ERGO แบรนด์ประกันภัยชั้นนำจากเยอรมันพร้อมยกระดับการให้บริการด้านประกันภัยรถยนต์ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งมอบประสบการณ์ด้านการเดินทางที่ง่ายขึ้นสำหรับคนไทย ผ่านคำมั่น  'Simple, Because it matters' และสงกรานต์ที่ผ่านมา ERGO ได้ส่งต่อปณิธานนี้ผ่านแคมเปญ #สงกรานต์นี้ไปไหนก็อุ่นใจกับเออร์โกประกันภัย เพื่อส่งเสริมชีวิตของคนไทยที่ง่ายให้เกิดขึ้นจริง

     ERGO เข้าใจปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนไทย และตั้งเป้าลดปัญหาอย่างตรงจุด ด้วยตระหนักถึงปัญหาเร่งด่วนด้านความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือที่เรียกว่า "7 วันอันตราย" ERGO เข้าใจความท้าทายที่นักเดินทางชาวไทยต้องเผชิญ จากการวิจัยและการวิเคราะห์ที่ครอบคลุม ERGO เล็งเห็นถึงความจำเป็นของการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเวลาสำคัญนี้ที่มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากทุกปี ERGO ในฐานะเป็นแบรนด์ประกันภัยที่ต้องการเห็นชีวิตของคนไทยง่ายขึ้น โดยเฉพาะการเดินทางในช่วง 7 วันอันตราย จึงวางกลยุทธ์เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด ด้วยการขยายความปลอดภัยให้ทุกคนเข้าถึงได้มากขึ้น ไม่เพียงแต่ลูกค้าของ ERGO แต่ยังรวมถึงนักเดินทางทุกคนที่ใช้รถบนท้องถนนด้วย

        ร่วมมือกับภาครัฐ ขยายผลเชิงบวก ตั้งเป้าลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีชีวิตที่ง่ายขึ้น ERGO จึงได้จับมือเป็นพันธมิตรกับกรมทางหลวง เพื่อขยายผลการลดจำนวนอุบัติเหตุ ผ่านการส่งรถสไลด์ช่วยเหลือของ ERGO ไปประจำการยังเส้นทางสู่ภูมิภาค 5 จุดหลักซึ่งเกิดอุบัติเหตุมากที่สุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ การส่งรถสไลด์ในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการเพิ่มกำลังพลให้กับกรมทางหลวงแล้ว ยังเป็นการเพิ่มหน่วยช่วยเหลือที่เข้าแก้ไขปัญหาให้กับผู้ใช้ถนน ณ จุดเกิดเหตุได้ทันที โดยความร่วมมือนี้ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในกิจกรรมปล่อยขบวนรถรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากที่มาร่วมกันเป็นสักขีพยาน เพื่อช่วยกันทำให้ชีวิตบนท้องถนนของทุกคนง่ายขึ้น

        ความร่วมมือระหว่าง ERGO และกรมทางหลวงในครั้งนี้ ช่วยสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนให้กับคนเดินทางได้มากกว่า 200 รายตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งการเปลี่ยนยางอะไหล่ พ่วงแบตเตอรี่ เติมลมยาง ไปจนถึงสไลด์รถไปยังจุดใกล้เคียง เพราะถึงแม้จะเป็นเหตุขัดข้องเพียงเล็กน้อยแต่ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุอื่น ๆ บนท้องถนนตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุบัติเหตุรถชนต่อเนื่องกันเป็นแนวยาวซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุด ความร่วมมือระหว่าง ERGO และกรมทางหลวงครั้งนี้ นับเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่ปลอดภัยและเข้าถึงได้มากขึ้น เพื่อให้คนไทยทุกคนมีชีวิตที่ง่ายขึ้นอย่างแท้จริง

       นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ ERGO ตามพันธกิจที่ต้องการยกระดับชีวิตคนไทยให้ง่ายขึ้น และมุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานการดูแลคนไทยให้ไม่น้อยไปกว่ามาตรฐานจากประเทศเยอรมัน ด้วยประสบการณ์ด้านการประกันภัยของ ERGO Group ที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 70 ปี จะช่วยให้เออร์โกประกันภัย (ประเทศไทย) มีศักยภาพและความพร้อมที่จะดูแลคนไทยให้ดีที่สุด และพร้อมทุ่มเทให้กับการบุกเบิกความคิดริเริ่มใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้ทุกคนได้รับบริการด้านการประกันภัยที่ง่ายขึ้น

เกี่ยวกับ เออร์โกประกันภัย:

      เออร์โกประกันภัย (ประเทศไทย) ดำเนินธุรกิจภายใต้การบริหารงานของ เออร์โก กรุ๊ป ซึ่งส่วนหนึ่งของ มิวนิกรี กลุ่มธุรกิจผู้รับประกันภัยต่อและรับประกันความเสี่ยงชั้นนำของโลก ERGO ยังเป็นหนึ่งในบริษัทผู้รับประกันภัยหลักทั้งในเยอรมันและอีก 20 ประเทศทั่วโลก ด้วยประสบการณ์ในตลาดประกันวินาศภัยอันยาวนานกว่า 70 ปี ความเชี่ยวชาญที่ครอบคลุมและหลากหลายของทีมงาน และเครือข่ายพันธมิตรที่มีประสบการณ์ จะช่วยให้เออร์โกประกันภัย (ประเทศไทย) สามารถบรรลุพันธกิจสำคัญต่อการทำประกันภัยให้เป็นเรื่องง่ายในทุกมิติของการให้บริการ

      เออร์โกประกันภัย (ประเทศไทย) เชื่อว่า ทุกความเสี่ยงภัยของชีวิต จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใส่ใจและทั่วถึง แม้การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อให้ก้าวทันเทคโนโลยีจะเป็นสิ่งจำเป็น แต่การมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลืออย่างเข้าใจและเข้าถึงก็สำคัญไม่ต่างกัน เพื่อให้ทุกความช่วยเหลือได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด และช่วยให้การประกันภัยเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน


วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

สวนหลวง-สามย่าน จัดงาน "เฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดเจ้าแม่ทับทิม" อย่างยิ่งใหญ่ ณ ศาลเจ้าแม่ทับทิม อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ

สวนหลวง-สามย่าน จัดงาน "เฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดเจ้าแม่ทับทิม" อย่างยิ่งใหญ่ ณ ศาลเจ้าแม่ทับทิม อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ

ชมการแสดงงิ้ว แจกอาหารเจฟรี ตลอด 3 วัน 3 คืน

ระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 2 พฤษภาคม  2567

สวนหลวง-สามย่าน ร่วมกับชาวชุมชนสวนหลวง-สามย่าน จัดงานยิ่งใหญ่ "เฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดเจ้าแม่ทับทิม" ขอเชิญสักการะขอพรเจ้าแม่ทับทิม พร้อมชมการแสดงงิ้ว แจกอาหารเจ และชวนช้อป ชิม ชิลล์ อาหาร เครื่องดื่ม ละลานตา ตลอด 3 วัน 3 คืน ระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 2 พฤษภาคม  2567 พร้อม ณ ศาลเจ้าแม่ทับทิม อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ

        โดยงานวันเฉลิมฉลองครบรอบวันคล้ายวันเกิดเจ้าแม่ทับทิมจัดขึ้นเพื่อสักการะบูชา ขอพร รวมทั้งแสดงความเคารพเจ้าแม่ทับทิม นับเป็นการร่วมแรง ร่วมใจ สมัครสมานสามัคคีของคนในชุมชนซึ่งต่างมีความผูกพัน เคารพศรัทธาในองค์เจ้าแม่ทับทิม โดยคนในชุมชนต่างสักการะกราบไหว้ขอพรด้านสุขภาพแข็งแรง ค้าขายรุ่งเรือง การงานก้าวหน้า การเงินคล่องตัว การเรียนราบรื่น


         จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมงาน "เฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดเจ้าแม่ทับทิม" ณ ศาลเจ้าแม่ทับทิม หน้าอุทยาน 100 ปีจุฬาฯ ระหว่างวันที่ 30 เมษายน  – 2  พฤษภาคม  2567 

        โดยภายในงาน จะมีการแจกอาหารเจด้วยความร่วมแรงร่วมใจจากคณะผู้มีจิตศรัทธา เวลา 09.00 น. 

เวลา 17.00 น. การแสดงสินค้าประเภทอาหาร  เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว ของทานเล่น 

และ เวลา 20.00 น. ชมการแสดงงิ้ว จากคณะเล่าบ่วงนี้เฮง 3 เรื่อง 3 สไตล์


        ศาลเจ้าแม่ทับทิมตั้งอยู่ด้านหน้าอุทยาน 100 ปี  จุฬาฯ รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวที่ทุกคนในชุมชนสามารถพักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และประกอบกิจกรรมร่วมกันได้ทั้งครอบครัว อีกทั้งยังมีอาหารอร่อยละลานตาให้นักชิมได้เลือกชิมตลอดเส้นบรรทัดทองทั้งร้านอร่อยระดับตำนานมิชลินไกด์ ร้านอร่อยในกระแส และสตรีทฟู้ดมากมาย อาทิ ล้งเล้งก๋วยเตี๋ยวปลา, ก๋วยเตี๋ยวเป็ดบ๊วยโภชนา, เอ๋ซีฟู้ด, ส้มตำเจ๊อ้อย, เสน่ลาบก้อย, อี้จาสุกี้หมาล่า, CQK หมาล่าฮ็อทพอท, ฝันที่เป็นจริง, เนื้อแท้, เอลวิสสุกี้, สุกี้ เผิงโหย่ว, ครัวคุณย่า, คุณนายทะเลดอง, ตุ้งแฉ่เตาถ่าน, Samyan Cafe' & Restaurant, 71 หมูกระทะ, ข้าวมันไก่เจ๊โบว์, ข้าวต้มปลากิมโป้, นิยมปักษ์ใต้, จิงเจอร์โบว์, ข้าวต้มสันติภาพ, เนื้อแท้, ข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่ามเชียงใหม่, หอยทอดชาวเล, หนึ่งนมนัว, น้ำเต้าหู้, กอล์ฟปลาท่องโก๋, ไอศกรีมหม้อไฟยศเส, น้ำเต้าหู้เจ๊วรรณ, จูนปัง, เจ๊เดือนขนมไทย, ฯลฯ ให้เลือกรับประทานอีกด้วย

            สำหรับการเดินทางมาศาลเจ้าแม่ทับทิม อุทยาน 100 ปีจุฬาฯ ก็สะดวกสบาย โดยสามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง ได้แก่

 - รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวเข้ม ลงสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ต่อ Shuttle Bus สาย 2 ลงป้ายอาคารจามจุรี 14 แล้วเดินมาที่อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ 

- รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวอ่อน ลงสถานีสยามสแควร์ ต่อ Shuttle Bus สาย 1 หรือ 4 ลงที่สถานีศาลาพระเกี้ยว และต่อรถ Shuttle Bus สาย 5 ลงสถานีอุทยาน 100 ปี จุฬาฯ

- รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน ลงสถานีสามย่าน ต่อรถ Shuttle Bus สาย 5 ลงสถานีอุทยาน 100 ปี จุฬาฯ

- รถเมล์ที่สามารถเดินทางได้ คือ สาย 73, 73ก, 113 ป้ายถนนบรรทัดทอง 

- รถยนต์ส่วนตัวสามารถจอดรถได้ที่ลานจอดรถอุทยาน 100 ปี จุฬาฯ สวนหลวงสแควร์ และตลาดสามย่าน


DIT มอบรางวัลการประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย (ครั้งที่ 41) และรางวัลการประกวดข้าวสารคุณภาพดีเด่นแห่งประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2566

DIT  มอบรางวัลการประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย (ครั้งที่ 41) 

และรางวัลการประกวดข้าวสารคุณภาพดีเด่นแห่งประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2566




         นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในงานประกาศผลและพิธีมอบรางวัลการประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย ประจำปี 2566 (ครั้งที่ 41) และรางวัลการประกวดข้าวสารคุณภาพดีเด่นแห่งประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2566 ซึ่งจัดโดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่ห้องบุรฉัตรไชยากร กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันก่อน 24 เมษายน 2567 เพื่อเฟ้นหาและอนุรักษ์ข้าวหอมมะลิคุณภาพชั้นเลิศไทย ส่งเสริมการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพดี และสร้างต้นแบบเกษตรกร ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่นิยมข่าวคุณภาพสูงเป็นหลัก และยังมีการเชื่อมโยงการตลาดให้เกษตรกรผู้ชนะการประกวดเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ ขยายช่องทางการจำหน่ายให้กับเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรอย่างยั่งยืน 




           นายภูมิธรรม เวชยชัย กล่าวว่า ข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของไทย เกี่ยวข้องกับพี่น้องเกษตรกรกว่า 4.7 ล้านครัวเรือน และประชาชนในประเทศส่วนใหญ่บริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก สะท้อนถึงความมั่นคงทางอาหารและเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงเกี่ยวข้องกับพี่น้องเกษตรกรจำนวนมาก รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์เล็งเห็นถึงความสำคัญของพี่น้องเกษตรกรไทยที่เปรียบเสมือนเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ดำเนินนโยบาย พัฒนา สนับสนุน และส่งเสริมชาวนา ภายใต้หลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น




            พร้อมเน้นย้ำว่า ข้าวหอมมะลิถือเป็นข้าวในตลาดข้าวพรีเมียมที่มีชื่อเสียงด้วยอัตลักษณ์เฉพาะตัว  มีเม็ดยาวเรียวสวย สีมันวาว หุงแล้วมีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นใบเตย รสสัมผัสนิ่มนวล จึงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากที่สุดทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ แม้ราคาจะสูงกว่าข้าวชนิดอื่นแต่ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาด เพื่อเป็นการรักษาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง การยกระดับเชิงนโยบายทั้งด้านการผลิตและการควบคุมคุณภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค และให้ประเทศไทยยังคงไว้ซึ่งแหล่งผลิตและส่งออกข้าวหอมมะลิชั้นเลิศของโลก ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตข้าวสำคัญของโลก โดยในปี 2566 ไทยสามารถส่งออกข้าวได้สูงถึง 8.76 ล้านตัน นับได้ว่าสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่ากว่า 178,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาร้อยละ 28 โดยข้าวหอมมะลิยังคงรักษาระดับการส่งออกได้ดีแม้ราคาสูงกว่าคู่แข่ง โดยมีปริมาณส่งออกในปี 2566 อยู่ที่ 1.32 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 5.6 ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน แคนาดา และฮ่องกง

“ตนเดือนเดินทางไปหลายประเทศได้รับความชื่นชมในข้าวไทย ไม่ว่าจะเป็นจีนในหลายมณฑล สหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศ ทุกคนต่างชื่นชมถึงแม้ราคาจะสูงกว่าที่อื่น แต่ยังสัมผัสได้ในความพิเศษของข้าวหอมมะลิไทย ”





            ด้าน นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า การประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทยวันนี้ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทเกษตรกรรายบุคคล และประเภทสถาบันเกษตรกร ในครั้งนี้มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิจาก 22 จังหวัด ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ส่งตัวอย่างข้าวเข้าประกวดจำนวนรวม 967 ตัวอย่าง และได้นำตัวอย่างข้าวขาวของผู้ที่สมัครเข้าร่วมประกวดฯ ตรวจสอบคุณภาพข้าวทางวิชาการ ทั้งเคมีและกายภาพ ส่งให้คณะกรรมการตัดสินการประกวดทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศพิจารณาคัดเลือกจนได้ผู้ได้รับรางวัลรวมจำนวน 21 ราย แบ่งเป็น เกษตรกรรายบุคคล 18 ราย และสถาบันเกษตรกร 3 ราย เป็นโล่รางวัลเกียรติยศและใบประกาศเกียรติคุณ พร้อมเงินรางวัล รวมกว่า 625,000 บาท




            โดยในวันนี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้มอบรางวัลแก่เกษตรกรและผู้ประกอบการโรงสี ผู้ผลิตข้าวสารคุณภาพ ผู้ชนะการประกวดข้าวสารคุณภาพดีเด่นแห่งประเทศไทยประจำปี พ.ศ.2566 รวม 11 รางวัล ในประเภทต่างๆ อาทิ ข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมไทย และข้าวสารเหนียวเมล็ดยาว สำหรับรายชื่อผู้ชนะการประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย ประจำปี 2566 ประกอบด้วย

ประเภทเกษตรกรรายบุคคล : ได้แก่

รางวัลชนะเลิศ นายณรงค์  จันทรุ่ง จ.อุบลราชธานี

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 นางจันทร์สมสบบง จ.พะเยา

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 นายสุเรียนสังข์ลาย จ.สุรินทร์

ประเภทสถาบันเกษตรกร :  ได้แก่

รางวัลชนะเลิศ วิสาหกิจชุมชนข้าวหอมมะลิสงเปลือย ม.5 ต.เมืองทอง จ.ร้อยเอ็ด

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. นครพนม จำกัด จ.นครพนม

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ศูนย์ข้าวชุมชนข้าวปลอดสารพิษตำบลแม่อ้อ จ.เชียงราย

          โดยภายในงานได้มีการเซ็น MOU ซื้อ-ขายข้าวเปลือกหอมมะลิล่วงหน้าในราคานำตลาด สูงกว่าราคาตลาด 500 บาท/ตัน จำนวน 6 คู่ กว่า 343.4 ตัน ด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจว่าข้าวที่มีคุณภาพสูงมีตลาดรองรับ ทั้งนี้สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์กรมการค้าภายในwww.dit.go.thหรือ Line@ MR.DIT 

ททท. เดินหน้าขับเคลื่อนตลาด Super Long Haul เปิด ททท. สำนักงาน ชิคาโก เดือนสิงหาคมปี 2567 นี้

ททท. เดินหน้าขับเคลื่อนตลาด Super Long Haul 

เปิด ททท. สำนักงาน ชิคาโก เดือนสิงหาคมปี 2567 นี้

เจาะกลุ่มคุณภาพจาก Central (Mid) Amarica+ Canada 


         นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยนายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา อเมริกา และตะวันออกกลาง นำคณะเจ้าหน้าที่ ททท. เข้าเยี่ยมคารวะ นางฆฏนาวดี กัลยาณมิตร กงสุลใหญ่ พร้อมด้วยนางนาฏนภางค์ ดำรงสุนทรชัย รองกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา และนางสุปรารถนา กมลเวชช ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก เมื่อวันก่อน 22 เมษายน 2567


เพื่อหารือการเตรียมความพร้อมการจัดพิธีเปิดสำนักงาน ททท. สำนักงานชิคาโก ที่ได้กำหนดจัดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2567 โอกาสนี้ ท่านกงสุลได้ให้ข้อมูลว่า พื้นที่ Mid West หรือ Central Amarica เป็นพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวยังไม่รู้จักประเทศไทยมากนัก ซึ่ง ททท. และทีมไทยแลนด์ยังมีโอกาสทำการตลาดอีกมาก โดยจากประสบการณ์ที่ผ่านมา เมื่อนักท่องเที่ยวภายในพื้นที่ Mid West ได้เดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไทยก็มักที่จะหลงรักประเทศไทยทุกคน นับเป็นโอกาสอันดีในการเพิ่ม Friends of Thailand

        ในการนี้ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. ได้ขอความร่วมมือสถานกงสุลใหญ่ฯ ในการสนับสนุนและประชาสัมพันธ์การส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกัน อาทิ การจัดกิจกรรม Amazing Thailand Fam Trip : Be My Guests Fam Trip ในการเชิญแขกผู้มีเกียรติที่สถานกงสุลและสถานทูตทั่วโลกมี Connection มาร่วมทัศนศึกษายังประเทศไทย อันจะเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น Tourism Hub และ Aviation Hub ตามนโยบาย Ignite Thailand ของรัฐบาล รวมทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองหลักควบคู่กับเมืองน่าเที่ยว (เมืองรอง) เป็นต้น


         ทั้งนี้ สำนักงาน ททท. สำนักงานชิคาโก นับเป็นสำนักงานต่างประเทศ สำนักงานที่ 3 ในสหรัฐอเมริกาของ ททท. (ภายหลังสำนักงานนิวยอร์ก และสำนักงานลอสแอนเจอลิส) โดย ททท. ได้พิจารณาจากปัจจัยด้านภูมิศาสตร์และจำนวนประชากรในพื้นที่ โดยกำหนดให้สำนักงานใหม่มีภารกิจครอบคลุมประเทศแคนาดาทั้งหมด และพื้นที่ภาคกลางของสหรัฐฯ จำนวน 16 รัฐ ได้แก่ Alaska, Arkansas, Illinois, Indiana, lowa, Kansas, Louisiana, Michigan, Minnesota, Missouri, Nebraska, North Dakota, Ohio, Oklahoma, South Dakota, Wisconsin ซึ่งในจำนวนนี้ รัฐ Illinois มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 6 ของสหรัฐฯ และเป็นรัฐที่มีนักท่องเที่ยวมาไทยมากเป็นอันดับที่ 6 


         ซึ่ง ททท. จะจัดตั้งสำนักงานดังกล่าวในพื้นที่ของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก ตามนโยบายการใช้สำนักงานเดียวกัน (One Roof Policy) โดยจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติราชการของทีมประเทศไทยในสหรัฐฯ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและเอกภาพของการบริหารงานต่อไป


         ในปี 2567 ททท. ได้วางเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอเมริกา : จำนวน 1.43 ล้านคน รายได้ 105,530 ล้านบาท (เป้านักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย 35 ล้านคน รายได้รวม 1,921,000 ล้านบาท ) โดยการปรับเปลี่ยนสู่การท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและมีมูลค่า / เสนอขายสินค้าทางการท่องเที่ยว 5F (Food / Fashion / Film /Fighting / Festival) / ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ซึ่งจะเน้นเจาะกลุ่มคุณภาพ / เพิ่มกิจกรรมท่องเที่ยว / ขายสินค้าเพิ่มมูลค่า (สร้างให้เกิดประสบการณ์ทรงคุณค่า) โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ : 76,297 บาท /คน/ทริป และจำนวนวันพักเฉลี่ย : 15.02 วัน

#AmazingThailand 

#TATCHICAGO

#TeamThailandInUSA

วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2567

โปรสุดคุ้มที่ศูนย์สุขภาพ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์

โปรสุดคุ้มที่ศูนย์สุขภาพ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ 

          ซัมเมอร์นี้ เตรียมอวดหุ่นเซี๊ยะให้เพื่อนร้องว้าว! โปรโมชั่นแน่น จัดเต็มรอให้คุณมาทดลองเลือกโปรแกรมที่ใช่ หุ่นสวยปัง ทันใจแน่นอนที่ศูนย์สุขภาพ  โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์

         สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกศูนย์สุขภาพ  นอกจากเข้าใช้บริการฟิตเนส คาดิโอ เวทเทรนนิ่ง แอโรบิค สควอช สนุกเกอร์ โต๊ะปิงปอง โดยมีเทรนเนอร์มืออาชีพคอยแนะนำการใช้อุปกรณ์ ยังสามารถเข้ากิจกรรมคลาสพิเศษต่างๆ ใช้บริการสระว่ายน้ำกลางแจ้ง พร้อมพื้นที่สำหรับพักผ่อนและอาบแดด ห้องอบซาวน่า  สตรีม อ่างจากุซซี่ร้อน-เย็น ด้วย

         เพียงสมัครสมาชิกรายปีได้แถมฟรีพิเศษอีก 1 เดือน รวมเป็น 13 เดือน (เพียง 25,500 บาท) สมัครราย 6 เดือน รับฟรี! บัตรกำนัลบุฟเฟ่ต์ดินเนอร์ 1 ใบ รับส่วนลด50% ล็อกเกอร์รายปีสำหรับสมาชิกเก่า 3 ปีขึ้นไปหรือสมัคร “โปรโมชั่นทดลองใช้บริการ 1 เดือนเพียง 3,000 บาท” โปรโมชั่นสุดคุ้มแบบนี้รีบสมัครด่วน!! ภายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้เท่านั้น 

             สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2276-4567 ต่อ 8340 หรือไลน์ @theemeraldhotel และเพจ www.facebook.com/TheEmeraldHotel 


มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับสตรีที่ด้อยโอกาส

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับสตรีที่ด้อยโอกาส  ในโครงการส่งเสริ...