วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ไทยพาณิชย์ โพรเทค รวมพลัง 12 พันธมิตรกลุ่ม EV ปักธงผู้ริเริ่มความคุ้มครองเพื่ออนาคต

ไทยพาณิชย์ โพรเทค รวมพลัง 12 พันธมิตรกลุ่ม EV ปักธงผู้ริเริ่มความคุ้มครองเพื่ออนาคต

                 ไทยพาณิชย์ โพรเทค (SCB Protect) ชูธงเป็นผู้ริเริ่มความคุ้มครองเพื่ออนาคต รวมพลังกลุ่มอีวี จาก 12 พันธมิตรชั้นนำในตลาด เปิดตัวบิ๊กแคมเปญ “SCB Protect คุ้มครองเพื่ออนาคต ลุ้นขับฟรีรถ EV 1 ปี” จูงใจให้คนไทยหันมาใช้พลังงานสะอาดผ่านบริการพันธมิตร หรือ ซื้อประกันประเภทใดก็ได้ผ่าน SCB Protect เพื่อลุ้นรับสิทธิ์ชิงโชครางวัลพลังงานสะอาดมากมาย พร้อมเปิดตัว “ประกันรถยนต์ EV” บุกช่องทางดิจิทัล มอบความคุ้มครอง Wall Box ฟรี หวังแคมเปญนี้ช่วยจุดประกายให้ไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำได้เร็วขึ้น
 

                  นางสาวปรมาศิริ มโนลม้าย รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจประกัน ธนาคารไทยพาณิชย์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด (SCB Protect) เปิดเผยว่า ในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม จนส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการจนทำให้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกและพลังงานสะอาดมีทิศทางการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) หรือ รถยนต์อีวี ส่วนหนึ่งจากการที่ภาครัฐออกนโยบายส่งเสริมการใช้รถ EV และสถานการณ์ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงและมีความผันผวนเป็นแรงจูงใจให้คนหันมาซื้อรถอีวีมากขึ้น สอดคล้องกับข้อมูลของอีไอซีที่คาดว่ายอดขายรถอีวีของไทยจะขยายตัวปีละ 17.6% ในช่วงระหว่างปี 2022-2030 ซึ่งการเติบโตของรถยนต์อีวีในประเทศจึงเป็นการสนับสนุนประเทศไทยให้เข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำได้เร็วยิ่งขึ้น SCB Protect ขอปักธงเป็นผู้ริเริ่มความคุ้มครองเพื่ออนาคต ด้วยการรวมพลัง 12 พันธมิตรธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานสะอาดอย่าง กลุ่มให้บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้า (Car Rental / Car Sharing) EVme, SIXT, HAUP กลุ่มสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) และเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) EA Anywhere, on-ion, SHARGE, EV MALL, CHOSEN, EVolt, PROMPTCHARGE และกลุ่มซ่อมบำรุงรถยนต์ (Car Maintenance) FIT Auto, COCKPIT รวมถึงการสนับสนุนจากหน่วยงานสินเชื่อรถยนต์ธนาคารไทยพาณิชย์ (Auto Finance) และธุรกิจบัตรธนาคารไทยพาณิชย์
 

                 และเพื่อเป็นการตอกย้ำปรากฏการณ์บิ๊กแคมเปญ “SCB Protect คุ้มครองเพื่ออนาคต ลุ้นขับฟรีรถ EV 1 ปี” เราจึงเปิดตัวประกันรถยนต์ EV สุดคุ้มผ่านช่องทางดิจิทัล https://online.scbprotect.co.th/ ที่ให้ความคุ้มครองพิเศษครอบคลุมไปถึงแท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (Wall Box) ด้วยวงเงินสูงถึง 50,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษ โดยคาดว่าประกันรถยนต์ EV จะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำได้เร็วขึ้น “ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อให้สังคมไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำโดยเร็ววัน


                  ดังนั้น เราเชื่อว่าการสร้างความคุ้มครองเพื่ออนาคตผ่านผลิตภัณฑ์และการบริการของเราและพันธมิตรในครั้งนี้ จะสร้างการรับรู้ในวงกว้างให้แก่ผู้บริโภคให้ลดการใช้พลังงานในรูปแบบเดิมสู่การใช้พลังงานสะอาด โดย SCB Protect จะคัดสรรผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาดดีๆ คุ้มๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้ริเริ่มด้านความคุ้มครองเพื่ออนาคต”
 
                   ปรากฏการณ์บิ๊กแคมเปญ “SCB Protect คุ้มครองเพื่ออนาคต ลุ้นขับฟรีรถ EV 1 ปี” เพียงใช้จ่ายที่ 12 พันธมิตร หรือช่องทางที่เข้าร่วมรายการ รับสิทธิ์ลุ้นขับฟรีรถ EV 1 ปีและรางวัลอีกมากมาย แค่สแกนที่จุดใช้บริการหรือกดลิงค์เพื่อกรอกข้อมูลจำเป็นที่ใช้ในการชิงโชค เฉพาะลูกค้าประกันรับสิทธิ์โดยอัตโนมัติ -ใช้จ่ายที่ 12 พันธมิตรธุรกิจ EV เท่าใดก็ได้ รับสิทธิ์ลุ้น 1 สิทธิ์ กรณีจ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต SCB รับสิทธิ์ ลุ้นคูณ 3 -ลูกค้าใหม่สินเชื่อรถยนต์ทุกประเภทของธนาคารไทยพาณิชย์ รับสิทธิ์ลุ้น 3 สิทธิ์ -ซื้อประกันประเภทใดก็ได้ ช่องทางใดก็ได้ ผ่าน SCB Protect รับสิทธิ์ลุ้น 3 สิทธิ์ต่อกรมธรรม์ -โปรโมชั่นแรง เปิดตัวประกันรถยนต์ EV ออนไลน์ SCB Protect รับส่วนลด 5,000 บาท เพียงกรอกโค้ด “SUPEREV” ที่ https://online.scbprotect.co.th/motor?class=type-1 พร้อมรับสิทธิ์ลุ้นถึง 5 สิทธิ์ต่อกรมธรรม์

 
                   ผู้สนใจสามารถร่วมแคมเปญ “SCB Protect คุ้มครองเพื่ออนาคต ลุ้นขับฟรีรถ EV 1 ปี” ได้ตั้งแต่ 1 กันยายน – 30 พฤศจิกายน 2565 
                    รางวัล แคมเปญ “SCB Protect คุ้มครองเพื่ออนาคต 
-ลุ้นขับฟรีรถอีวี 1 ปี -สิทธิ์ขับรถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat พร้อมประกันภัยชั้น 1 ฟรี 1 ปี จำนวน 1 รางวัล -สิทธิ์การขับ ORA Good Cat พร้อมประกันภัยชั้น 1 ฟรี 1 เดือน จำนวน 5 รางวัล 
-ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี จำนวน 10 รางวัล 
-ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2+ ระยะเวลา 1 ปี จำนวน 10 รางวัล 
-บัตรเติมประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า จำนวน 30 รางวัล 
-โค้ดส่วนลดประกันรถยนต์ออนไลน์ SCB Protect มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 200 รางวัล 
                     จับรางวัล 3 ครั้ง วันที่ 12 ตุลาคม, 16 พะฤศจิกายน และ 21 ธันวาคม 2565 และประกาศผลผู้โชคดีวันที่ 17 ตุลาคม, 21 พฤศจิกายน และ 26 ธันวาคม 2565 ที่ https://www.scbprotect.co.th/promotions/EVpromo หรือ SCB Protect
 

                     SCB Protect เป็นโบรกเกอร์ประกันชีวิตและประกันภัยที่ให้ความสำคัญในการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อสนับสนุนคนไทยได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมตรงกับความต้องการในราคาที่คุ้มค่า สำหรับประกันภัยรถยนต์เป็นผลิตภัณฑ์ด้านความคุ้มครองที่นำเสนอผ่านช่องทาง Telesale และดิจิทัล โบรกเกอร์ โดยบริษัทตั้งเป้าประกันรถยนต์จะมีส่วนสนับสนุนให้พอร์ตประกันภัยมีสัดส่วน 30% และนำ SCB Protect ก้าวสู่โบรกเกอร์ประกันดิจิทัลอันดับหนึ่งภายใน 3 ปี

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2565

PMCU ชวนเที่ยวสามย่านมิติใหม่ Samyan Smart City สู่ชุมชนคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

PMCU ชวนเที่ยวสามย่านมิติใหม่ 

Samyan Smart City

สู่ชุมชนคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ว่าจะเป็นสภาวะโลกร้อน ก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งมลภาวะที่เป็นพิษ และอีกหลายอย่างมากมาย ทำให้ประเทต่างๆ ทั่วโลกหันมาใส่ใจกับการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยนำนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้

ทาง PMCU ก็มีจุดหมายเช่นเดียวกัน จึงเดินหน้ามุ่งมั่นพัฒนาย่านสามย่าน สู่  Samyan Smart City นวัตกรรมสร้างสรรค์คุณค่า เพื่อประโยชน์สูงสุดในการดำรงชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

วันเดียวเที่ยว ชิล ชิล ย่านสามย่านลุคใหม่ ที่เปลี่ยนแปลงสู้ความล้ำสมัยเป็น Samyan Smart City ชุมชนนวัตกรรมที่เป็นเลิศแบบสมาร์ทๆ  วันเดียวครบจบในที่เดียว เพลิดเพลินกับแหล่งอาร์ต และอิ่มอร่อยกับอาหารเมนูเลืศรสร้านระดับตำนาน พร้อมชมนวัตรกรรม Smart City ต่างในพื้นที่ทั้ง Mobility, Solar ,EV Charging และชมงานศิลปะที่ Art4ศูนย์ศิลปะเพื่อชุมชน โดยคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายมีให้เลือกที่หลากหลาย ทั้งรถไฟฟ้า BTS สถานีสนามกีฬาฯ รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีสามย่าน และรถโดยสารประจำทาง รวมไปถึงรถส่วนตัวก็มาได้ไม่ยาก

โครงการสามย่านสมาร์ทซิตี้ มีการจัดระบบการเดินทางอัฉริยะ “Smart Mobility ในพื้นที่ เพื่อทำกิจกรรมในแต่ละวัน PMCU ให้ความสำคัญของการพัฒนาการเดินทางในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จึงได้สนับสนุนเทคโนโลยีการเดินทางใหม่ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้เดินทางให้เข้าถึงทุกพื้นที่ด้วยการเดินทางที่หลากหลาย ลดรอยต่อกับระบบขนส่งมวลชนหลัก (Seamless Transportation) และรองรับการเดินทางช่วงระยะเริ่มต้นและระยะสุดท้าย (First&Last Mile) การเดินทางแบบแบ่งปันกันใช้ (Sharing Vehicles) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการเดินทางในพื้นที่ประกอบด้วย โครงการพัฒนาระบบโครงข่ายขนส่งสาธารณะครอบคลุมพื้นที่ สามารถเข้าถึงการเดินทางด้วยพลังงานสะอาดและแบ่งปันกัน (Mobility) อาทิ รถตุ๊กๆ พลังงานไฟฟ้า , Bike Charing, Haup Car , CU Pop Bus  และ เตรียมพบกับ E-Scooter เร็วๆ นี้ นอกจากนี้ยังติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV CHARGING STATION) ครอบคลุมทุกพื้นที่


วันนี้ (วันที่ 18 สิงหาคม 2565) เราเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS มาลงสถานีสนามกีฬาฯแห่งชาติ แล้วนั่งรถตุ๊ก ตุ๊กๆ พลังงานไฟฟ้า ไปที่หมายต่างๆ แบบชิล ชิล โดยเริ่มจาก Art ศูนย์ศิลปะเพื่อชุมชน บริเวณตีนสะพานข้ามแยกสามย่าน  ถนนพระราม 4 อยู่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MTR สถานีสามย่าน อาคารเก่าแกที่ทางคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดทำเป็นโครงการสร้างสรรค์กิจกรรม เป็นพื้นที่งานบริการวิชาการทางศิลปะและวัฒนธรรมแก่สังคมภายใต้นโยบายของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อชุมชนและกลุ่มคนโดยรอบมหาวิทยาลัย ได้แสดงผลงานโครงการเพื่อพัฒนาและฝึกทักษะของนิสิตทำงานกับชุมชนและสาธารณะได้จริง โดยชั้นที่ 1 จะเป็นพื้นที่แสดงนิทรรศการงานศิลปะ บอกเล่าเรื่องราวที่เป็นความทรงจำที่น่าจดจำ เป็นสถานที่ที่เปิดให้ผลงานได้รับการชื่นชมและถูกรับฟัง เป็นโครงการโดยนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้ AIESEC CU โดยผลงานที่นำมาจัดแสดง คือผลงานที่ถูกส่งมาร่วมโครงการ และคัดเลือกโดยคณะกรรมการผู้มีความรู้ทางจิตวิเคราะห์และจิตวิทยาผสานกับศิลปะเป็นอย่างดี ส่วนกิจกรรมภายในงานนั้น ทุกท่านสามารถร่วมสร้างผลงานคอลลาจภายใต้ธีม ‘What’s your In the mo(me)nt’ ทำกิจกรรม Workshop ได้ด้วยตนเอง ระบายสีปูนปลาสเตอร์ย้อนวัยเด็ก ปลดปล่อยความรู้สึก 4 อารมณ์ผ่านตัวหนังสือและโพสท์อิท ร่วมถ่ายรูปกับคอนเซ็ป ‘Moving and Butterflies’ และร่วมกิจกรรมหมุนวงล้อลุ้นรับรางวัล ทางชมรม AIESEC จุฬา จึงอยากเชิญชวนทุกท่านมาร่วมงาน Artspect Week ‘พื้นที่ปลอดภัย’ ที่ทุกท่านสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ ภายใต้หัวข้อ ‘In the mo(me)nt’เข้าร่วมนิทรรศการได้ฟรี ไม่มีค่าใช่จ่าย และไม่จำเป็นต้องลงทะเบียน

หลังจากทำกิจกรรมแล้ว อยากผ่อนคลาย ที่ชั้น 1 นี้ก็มีร้าน Bitescape ไว้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ ทานเครื่องดื่มอาหารอย่างสบายอารมณ์ โดยมีเครื่องดื่มไว้บริการ โดยเฉพาะกาแฟก็มีให้เลือกมากมายทั้งรสเข้ม กลมกล่อม แต่ที่อยากแนะนำก็คือ กาแฟมะพร้าวน้ำหอม” หอมสดชื่นคลายง่วงจากน้ำมะพร้าวแท้ๆ เสริฟพร้อมของว่างไม่ว่าจะเป็น พายกรอบไส้กรอกอีสานซอสชิงโชยุ เค้กฟองน้ำล้างจาน ที่มองดูแล้วคล้ายฟองน้ำล้างจานจริงๆ แต่รสชาติอร่อยมาก ฟิชฟิงเกอร์+เฟรนช์ฟรายส์ โทสต์หมากรุก กุ้งทอดครีมสลัดแซ่บ และผลไม้รวมมิตร แต่ถ้าอยากทานอาหารที่นี่ก็มี ข้าวคลุกมันเนื้อไทยวากิว ข้าวสตูว์ไก่ ข้าวหมูเกาหลีบลูโกกิ ซีซาร์สลัด นักเก็ต+เฟรนซ์ฟรายส์ หมั่นโถวทูน่า แฮชบราวน์ทรัฟเฟิลซอส และข้าวคั่วกลิ้งไก่ไข่ออนเซ็น ให้เลือกทานตามใจชอบ



หลังลองทานกาแฟมะพร้าวน้ำหอม กับพายกรอบไส้กรอกอีสานซอสชิงโชยุ เค้กฟองน้ำล้างจาน แล้วก็เดินขึ้นไปที่ห้อง Gallery and Creative Learning Space ชั้น 3 โดยวันนี้เป็นการจัดแสดงนิทรรศการ “Colorful of BD(SM)" เป็นงานนิทรรศการธีสิสน้องๆ จากทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงถึงสีสันพันธนาการ โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างการรับรู้เรื่องบทบาทความสัมพันธ์ของผู้พันธการและผู้ควบคุมวินัย (Bondage and Discipline) ผ่านการใช้สี Colorful ประกอบการให้ข้อมูลความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับรสนิยมทางเพศ BDSM เนื่องจากสีแต่ละสีมีความหมายภายในตนเอง และสามารถสร้างการรับรู้ รวมถึงสะท้อนระดับความรุนแรงของพันธนาการและผู้ควบคุมวินัย (Bondage and Discipline) ในรสนิยมทางเพศ (BDSM) เกี่ยวกับเรื่องความเข้าใจให้กับผู้คนได้ที่สามารถนำมาเพื่อทำให้เกิดภาพลักษณ์และมุมมองของความรุนแรงในรสนิยมทางเพศ (BDSM) ที่ดูมีความนุ่มนวลลงจากเดิม ให้รู้สึกถึงความน่ากลัวและความรุนแรงน้อยลง โดยใช้ทฤษฎีสีคู่ตรงข้ามมาสร้างสรรค์ในงาน อันแสดงให้เห็นถึงบทบาทของพันธนาการและผู้ควบคุมวินัย (Bondage and Discipline) ในรูปแบบนายกับบ่าว รวมถึงเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงเรื่องราวของรสนิยมทางเพศ BDSM และมีการรับรู้ต่อมุมมอง ทัศนคติที่มีต่อรสนิยมทางเพศดังกล่าวได้มากขึ้น นิทรรศการ Colorful of BD(SM) นี้จะมีไปจนถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2565



ส่วนที่ Gallery and Creative Learning Space ชั้น 2 จัดแสดงนิทรรศการ “Climate is Oka" โดย ดร.ไพลิน ถาวรวิจิตร ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว เป็นงานวิจัยที่ผสมผสานเทคนิคงานวาดมือเข้ากับการทำ Motion graphic และ ภาพเสมือนจริง (AR) ศิลปินในฐานะนักวิจัยพยายามค้นหาความสัมพันธ์ของพื้นที่ป่าและพื้นที่เมือง ความแตกต่างขององค์ประกอบสภาพแวดล้อม ผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลต่อสภาพพื้นที่ การกัดกร่อน แห้งแล้ง โดดเดี่ยวของพื้นที่สีเขียวที่ค่อยๆหมดไป ผ่านผลงานวาดอันเปลี่ยวเหงา สะท้อนโลกที่กำลังค่อย ๆ ล่มสลายจากภาวะโลกร้อน ผู้ชมจะได้บรรยากาศดำดิ่งของความเงียบงัน ทว่าบางครั้งกลับคุกรุ่น กัดกินจิตใจ สร้างอารมณ์ที่แปรปรวนดั่งสภาพอากาศ ตั้งคำถามต่อโลกใบนี้ การปกป้องหรือการทำลายผ่านงานทุกชิ้นอย่างแยบยล



ชมนิทรรศการงานศิลปะจนซึมซับ ก็เดินไปที่โครงการ Block 28 ที่มีความโมเดิลทันสมัยและลานจอดรถตลาดสามย่าน เพื่อชมสถานีชาร์จรถไฟฟ้าและสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอร์รี่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งถือว่าเป็นการประหยัดพลังงาน “EV Policy”  ตามแนวคิดด้าน Smart Energy ที่ PMCU ได้ดำเนินโครงการสามย่านสมาร์ทซิตี้ ให้สอดคล้องกับภาครัฐที่มีเป้าหมายเพื่อให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (net-zero) โดยมีนโยบายส่งเสริมการใช้ Non-fuel Vehicle เพื่อลดการปลอ่ยมลพิษจากยานยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 และมลภาวะทางอากาศภายในพื้นที่ ตลอดจนการสนับสนุนให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยรองรับและส่งเสริมให้ใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (EV) ในพื้นที่มากขึ้น โดยทาง PMCU มีนโยบายต่างๆ ประกอบด้วย การเปลี่ยนรถโดยสารภายในพื้นที่ให้ใช้พลังงานไฟฟ้า 100%การส่งเสริมการเดินทางระบบ Sharing ด้วยพลังงานสะอาดการเพิ่มจำนวนสถานชาร์จรถไฟฟ้า 200 หัวจ่าย ภายในปี พ.ศ.2567 และตอนนี้จุฬาฯ เริ่มทยอยเปลี่ยนรถยนต์หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยเป็น EV โดยตั้งเป้าครบ 100% ภายในปี พ.ศ.2567 พร้อมด้วยการมอบส่วนลดค่าจอดรถรายเดือนสำหรับผู้ใช้รถยนต์ประเภท Pure Electric Vihicle (PEV) รวมทั้งเพิ่มสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอร์รี่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า



พร้อมชมการใช้พลังงานสะอาด Solar Roof ในโครงการ “ PMCU Solar Carpark” ซึ่งเป็นต้นแบบสมาร์ทคอมมูนิตี้ใช้พลังงานสะอาด ลดต้นทุน รักษาสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมคุณภาพชีวิตเมืองน่าอยู่ โดยได้ปรับปรุงพื้นที่ลานจอดรถเพื่อการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นการบริหารการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยร่วมกับหลายหน่วยงาน



ปิดท้ายด้วยการแวะตลาดสามย่าน ตลาดสดที่มีการปรับปรุงให้มีความทันสมัย ที่ยังคงเอกลักษณ์ที่เป็นตำนานความเป็นตลาดสดที่มีชื่อเสียงไว้ เป็นตัวอย่างในฐานะตลาดที่ดีตอบสนองชุมชนโดยรอบได้ครบถ้วนมายาวนาน โดดเด่นด้วยมาตรฐานด้านคุณภาพ ความปลอดภัย ความสะอาด และสุขลักษณะที่ดี รวมถึงรักษาวิถีชีวิตของชุมชน บริเวณใกล้เคียงที่เป็นความผูกพันของนิสิตและประชาคมโดยรอบให้คงอยู่  โดยชั้นล่างจำหน่ายพืช ผัก ผลไม้ อาหารทะเล  และเครื่องปรุงที่ใช้ประกอบอาหารหลากหลาย ส่วนบนชั้น 2 เป็นศูนย์อาหารที่รวบรวมร้านอาหารเก่าแก่ และเป็นที่นิยมในหมู่นิสิต นักศึกษา และคนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารชื่อดังอย่าง สะเต็กอ้วนผอม,  ทูเดย์สะเต็ก, ร้านอาหารทะเล ร้านปิ้งย่างอย่าง ย่างเนย และร้านอาหารอื่นๆ อีกมายมาย

การเดินทางท่องเที่ยวในวันนี้ก็จบลงอย่างสนุกสนาน เพลิดเพลิน ทั้งได้เยี่ยมชมโครงการนวัตรกรรมของSAMYAN SMART CITY  ต่างๆ และเพลิดเพลินกับแหล่งศิลปะเพื่อชุมชน รวมถึงตลาดสามย่านที่เป็นตำนาน วันนี้ถือว่าคุ้มค่าคุ้มเวลา มาที่เดียวครบจบ

ท่านที่สนใจเที่ยวสามย่านมิติใหม่ @ Samyan Smart City สามารถชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pmcu.co.th

 

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2565

เผยโฉมรถตัดอ้อย Case IH Austoft 9000 series รุ่นใหม่ล่าสุด สำหรับอีกระดับของการเก็บเกี่ยวอ้อยได้อย่างมั่นใจ

เผยโฉมรถตัดอ้อย Case IH Austoft 9000 series รุ่นใหม่ล่าสุด สำหรับอีกระดับของการเก็บเกี่ยว

อ้อยได้อย่างมั่นใจ

นางสาวเพชรรัตน์ เอกแสงกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดตัวรถตัดอ้อย Case IH Austoft 9000 series รุ่นใหม่ล่าสุดครั้งแรกในประเทศไทย ที่ผนวกรวมสุดยอดนวัตกรรมเพื่อเพิ่มผลผลิต ปลดปล่อยสมรรถนะสุดเยี่ยมอย่างมั่นใจ ที่พร้อมสำหรับพี่น้องเกษตรกรทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอบสนองทุกการใช้งานด้วยรุ่นล้อยางและล้อตีนตะขาบ อันเอื้อให้พี่น้องเกษตรกรชาวไร่อ้อยทั้งหลายและโรงงานน้ำตาลต่าง ๆ พรั่งพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและสมรรถนะเต็มพลังเพื่อพิชิตทุกความท้าทายจากการแข่งขันในตลาดโลก โดยมี คุณรัชนี วัตถุ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายเงินฝาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส), Ms. Chun Woytera ประธานกลุ่มบริษัท ซีเอ็นเอช อินดัสเทรียล ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก , Mr. Matthieu Sejourne Head of Brand and Commercial Services ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ,Mr. Mark Brinn กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท ซีเอ็นเอช อินดัสเทรียล ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศญี่ปุ่น ณ ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี (Impact Lakeside) เมื่อวันที่ [A1] 18 สิงหาคม 2565 โดยมี เปิดงานร่วมกัน ซึ่งCase IH เป็นหนึ่งในแบรนด์ของบริษัท ซีเอ็นเอช อินดัสเทรียล (ประเทศไทย ) จำกัด


มร. มิคาเล่ มอนซีโอ ผู้จัดการด้านผลิตภัณฑ์รถตัดอ้อย Case IH ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า รถตัดอ้อย Case IH Austoft 9000 series รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมแรงม้าที่มากขึ้น ระบบไฮดรอลิกอัจฉริยะ เสริมด้วยหลากหลายสุดยอดนวัตกรรมเพื่อเพิ่มปริมาณการเก็บเกี่ยวและลดต้นทุน จึงทำให้กำไรเพิ่มขึ้น รถตัดอ้อยรุ่นใหม่ล่าสุดนี้พร้อมให้ทุกท่านจับจองเป็นเจ้าของได้ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงต้นฤดุกาลเก็บเกี่ยวรอบหน้าที่จะถึงช่วงปลายปีนี้

รถตัดอ้อย Case IH Austoft 9000 series รุ่นใหม่ล่าสุด เป็นผู้สร้างและยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมในหลากหลายด้าน ได้แก่ ประสิทธิภาพการเก็บเกี่ยว สมรรถนะ ความไว้วางใจได้ ความสะดวกในการใช้งาน ฯลฯ และผ่านการทดสอบกว่า 30,000 ชั่วโมงทั้งในห้องทดสอบและการใช้งานจริง”


ความเลื่องชื่อระดับโลกในปัจจุบันของรถตัดอ้อยตระกูล Austoft ก่อเกิดจากรถตัดอ้อยเชิงพาณิชย์เครื่องแรกของโลก คิดค้นและจำหน่ายโดยพี่น้องตระกูล Toft ในประเทศออสเตรเลีย ณ ปี 1944 และต่อจากนั้น ตำนานของแบรนด์นี้ก็เป็นผู้นำในด้านการพัฒนานวัตกรรมรถตัดอ้อยสำหรับธุรกิจอ้อย เราวิจัยและพัฒนารถตัดอ้อย Case IH Austoft 9000 series จากการรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องชาวไร่อ้อยทั่วโลก เพื่อให้มั่นใจว่ารถซีรี่ส์นี้ตรงตามความต้องการของพวกเขา

"พวกเราภาคภูมิใจอย่างมากกับการพัฒนาร่วมกันกับพี่น้องชาวไร่อ้อยเพื่อให้มั่นใจว่ารถตัดอ้อยนี้ตรงตามความต้องการของพวกเขาเพื่อสุดยอดประสิทธิภาพและประสิทธิผล” มร. มิคาเล่ มอนซีโอ กล่าว “พวกเขาควรได้รับสุดยอดสมรรถนะและความไว้วางใจได้ ซึ่งพวกเขามองหารถตัดอ้อยที่คุ้มค่าการลงทุนสำหรับธุรกิจของพวกเขา”

รถตัดอ้อย Case IH Austoft 9000 series มาพร้อมหลากหลายเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในไร่อ้อย รวมถึง AFS® (Advanced Farming Systems) autoguidance system ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี และระบบ Telematics รุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับรถตัดอ้อยผ่านสัญญาณ 4G ได้ และเป็นรถตัดอ้อยรุ่นแรกที่มาพร้อมระบบนี้ เอื้อให้ชาวไร่อ้อยสามารถเชื่อมต่อรถตัดอ้อยกับระบบ AFS Connect telematics ได้ ช่วยให้สามารถเฝ้าติดตามการทำงานกลุ่มรถตัดอ้อยของพวกเขา การบริหารจัดการทั้งสภาพแปลงและข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บเกี่ยวอ้อย


ส่วนคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ของรถตัดอ้อย Case IH Austoft 9000 series ได้แก่

  - เครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด 420 แรงม้า พร้อมระบบไฮดรอลิกแบบใหม่ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิผลการเก็บเกี่ยวได้ระหว่าง 5 % ถึง 10 % และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 10 % ยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์สูงสุดถึง 50 %

  - เพิ่มความสะดวกในการบำรุงรักษา ด้วยการเข้าถึงชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมแชสซีส์แบบโมดูล่าร์ใหม่สุด

  - เหมาะกับการทำงานที่หลากหลาย ด้วยระบบควบคุมอัตราการป้อนท่อนอ้อยที่สามารถปรับได้แบบอัตโนมัติให้สอดคล้องกับแต่ละการเก็บเกี่ยว จึงช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและป้องกันอ้อยติดคอ

  - เพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้วยการออกแบบแผงควบคุม ตำแหน่งอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในห้องโดยสารให้สอดคล้องกับหลักการยศาสตร์ และเพิ่มทัศนวิศัยที่ดีที่สุดในการขับขี่และใช้รถตัดอ้อย

"รถตัดอ้อย Case IH Austoft 9000 series ไม่เพียงคงไว้ด้วยคุณสมบัติเด่นต่างๆ ของตระกูล Austoft ในอดีต แต่รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ยังพัฒนาต่อยอดด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ให้แรงม้าที่สูงขึ้น ระบบไฮดรอลิกอัจฉริยะที่ปรับให้สอดคล้องกับแต่ละสภาพการใช้งานได้ การบำรุงรักษาที่สะดวกยิ่งขึ้นจึงมั่นใจได้มากขึ้น ลดเวลาที่เครื่องจักรหยุดทำงานจากความเสียหายระหว่างฤดูเก็บเกี่ยว ระบบการบริหารจัดการช้อมูลรถตัดอ้อยและสภาพแปลงอ้อย เพื่อเป็นแนวทางการตัดสินใจให้พี่น้องชาวไร่อ้อย”


"รถตัดอ้อย Case IH Austoft 9000 series โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ในตลาด สะท้อนแนวทางรถตัดอ้อยรุ่นใหม่ พวกเราตื่นเต้นสำหรับสิ่งดี ๆ ที่รถรุ่นนี้จะสร้างให้พี่น้องชาวไร่อ้อย”

             มร. มิคาเล่ มอนซีโอ กล่าวปิดท้ายว่า “ความมุ่งมั่นของเรา คือ การเพิ่มความเชื่อมั่นและลดต้นทุนการเก็บเกี่ยวให้พี่น้องชาวไร่อ้อย”

สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถตัดอ้อยซีรี่ส์ Case IH Austoft พร้อมสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการใกล้บ้านท่านได้ หรือเยี่ยมชมเราผ่านทาง www.caseih.com.


วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2565

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่แจกจ่ายข้าวสารพร้อมเครื่องอุปโภค เนื่องในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2565 แก่ผู้ขาดแคลนในพื้นที่จังหวัดชลบุรี

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่แจกจ่ายข้าวสารพร้อมเครื่องอุปโภค 

เนื่องในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2565 แก่ผู้ขาดแคลนในพื้นที่จังหวัดชลบุรี

         มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ มอบหมายให้ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ จัดทีมเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัคร นำโดย นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย รักษาการหัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี แจกจ่ายชุดข้าวสารพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช น้ำปลา บรรจุกระเป๋าผ้าดิบมูลนิธิฯ แก่ผู้ขาดแคลนในพื้นที่อำเภอศรีราชา อำเภอเมือง อำเภอบ้านบึง และอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี รวม 4 อำเภอ ชุดข้าวสารจำนวน 2,000 ชุด รวมงบประมาณทั้งสิ้น 700,000 บาท (เจ็ดแสนบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนหน่วยงานรัฐ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย มูลนิธิฯ / สมาคมจีนต่างๆ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริวรรณ โอภาสวงศ์ นางศิริพร โอภาสวงศ์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์ และ อาสาศิลปิน นำโดย นางสาวพัชรมัย บุญเลิศกุล (แพรว พัชรมัย) นางสาวอธิชา เทศขำ (เมย์ อธิชา) นางสาวไดอนา แอน คาฮิลล์ นางสาวอรภัสญาน์ สุกใส ( มิ้วส์ อรภัสญาน์) นางสาวสุภัตรา ธระเสนา (ต่าย สุภัตรา) ร่วมในพิธี เมื่อวันอังคารที่ 16 สิงหาคม 2565

         และในช่วงกลางเดือนสิงหาคม - เดือนกันยายน 2565 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดลงพื้นที่แจกจ่ายชุดข้าวสารพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ขาดแคลนในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และ 50 เขต กรุงเทพมหานคร เป็นลำดับต่อไป คิดมูลค่าดำเนินการงานแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2565 ไม่ต่ำกว่า 11.7 ล้านบาท

         เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ที่ยังคงมีการแพร่ระบาดในขณะนี้ เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่ระบาด ในปีนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ยังคงรูปแบบการทำบุญทิ้งกระจาดแบบลดการสัมผัส เป็นการบริจาคทรัพย์เพื่อสมทบทุนในการจัดซื้อชุดข้าวสาร อาหารแห้ง พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ โดยสามารถทำบุญได้ 3 ช่องทาง ดังนี้ 

1. ทำบุญชุดข้าวสาร ที่ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

(ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ขอความร่วมมือในการงดรับข้าวสาร หรือสิ่งของอื่นๆ เพื่อลดการสัมผัส)

2. ทำบุญชุดข้าวสารออนไลน์: ผ่านบัญชีมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง 

3. เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ เพื่อลดความเสี่ยงและการเพิ่มมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาด มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จึงจัดให้มีช่องทางการร่วมทำบุญทิ้งกระจาดใหม่ ผ่านระบบออนไลน์ https://pttfny.net/newsh/ ในอีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมติดตามงานประเพณีทิ้งกระจาดได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง www.facebook.com/atpohtecktung

       ประเพณีทิ้งกระจาด ถือได้ว่า เป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่ปฏิบัติสืบทอดมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยมูลนิธิฯ ได้ปฏิบัติสืบเนื่องมาทุกปีเป็นเวลาช้านานกว่า 80 ปี และคาดว่าจะเป็นมูลนิธิแห่งแรก ที่จัดงานทิ้งกระจาดอย่างเป็นทางการและเป็นกิจจะลักษณะ เพราะถือว่าเป็นประเพณีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เพื่อนมนุษย์ที่ล่วงลับไปแล้วทั้งที่เป็นญาติและไม่เป็นญาติพร้อมกับทำทานให้แก่ผู้ยากไร้ ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีผู้ใจบุญจะนำเครื่องเซ่นไหว้ เช่น ข้าวสารอาหารแห้ง และอื่น ๆ มากราบไหว้หลวงปู่ เพื่อทำบุญสะเดาะเคราะห์ ซึ่งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจะรวบรวมไว้ไปสมทบกับสิ่งของที่จัดซื้อเพิ่มเติม เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ยากไร้ พร้อมนำมอบองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน

       ตลอดระยะเวลากว่า 112 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงการพัฒนาด้านการศึกษา เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

        ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ท Facebook Fanpage: www.facebook.com/atpohtecktung

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

#มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง110ปีความดีที่ยั่งยืน

#ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##

#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับสตรีที่ด้อยโอกาส

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับสตรีที่ด้อยโอกาส  ในโครงการส่งเสริ...