เที่ยวเมืองถุนซี สาธารณรัฐประชาชนจีน พิชิตมรดกโลกเขาหวงซาน ช้อปตลาดโบราณ 100 ปี ชมโชว์อลังการ 5D

เที่ยวเมืองถุนซี สาธารณรัฐประชาชนจีน

พิชิตมรดกโลกเขาหวงซาน

ช้อปตลาดโบราณ 100  ปี ชมโชว์อลังการ 5D

เรื่อง/ภาพ...อนุรักษ์ มงคลชัยประทีป/ พรพรรณ ท้าวกาหลง

วันนี้พวกเราได้รับเชิญจากบริษัทวีคเอนด์ทัวร์ แอนด์ คาร์โก้ เซอร์วิส รัฐบาลท้องถิ่นหวงซาน และการท่องเที่ยวเมืองหวงซาน มณฑลอันฮุย พาเราบินลัดฟ้าสู่เมืองถุนซี สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเก็บบรรยากาศความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองถุนซี มณฑลอันฮุย และพิชิตมรดกโลกเขาหวงซาน

พวกเราออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองเวลา 17.30 น. เดินทางใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 50 นาที เมื่อไปถึงเมืองถุนซี สาธารณรัฐประชาชนจีน ก็เป็นเวลาประมาณ 21.30 น. (แต่เวลาที่สาธารณรัฐประชาชนจีนจะเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง จึงเป็นเวลา 22.30 น.) เมื่อเดินออกมาจากสนามบิน เราก็สัมผัสได้กับความหนาวเย็นยะเยือก จนทุกคนต้องรีบคว้าเสื้อกันหนาวมาสวมใส่ จากนั้นไกด์และสารถีของเราก็พาเรามุ่งหน้าสู่โรงแรมที่พัก

เช้าวันใหม่ พวกเราก็รีบตื่นกันแต่เช้า เตรียมสัมภาระต่างๆ ที่จำเป็น และที่ขาดไม่ได้คือเสื้อกันหนาวและเสื้อฝน เดินทางออกจากโรงแรมที่พักเมืองถุนซี มุ่งหน้าสู่เขาหวงซานทันที ใช้ทางด่วนมอเตอร์เวย์ ผ่านสถานที่สวยงาม และตื่นตาตื่นใจกับการลอดผ่านอุโมงค์ภูเขายาวหลายกิโลหลายแห่ง ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงเชิงเขาหวงซาน

เขาหวงซาน เป็นเทือกเขาที่มีความสวยงามมาก อยู่ทางตอนใต้ของมณฑลอันฮุย อยู่ทางตะวันออกของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับการขึ้นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี พ.ศ. 2533 เป็นเทือกเขาที่มีชื่อเสียง มีความโด่งดังในเรื่องทิวทัศน์อันงดงามของยอดเขาที่อยู่เหนือระดับเมฆ ทำให้เราสามารถมองเห็นวิวทะเลหมอกอันสวยงามได้จากบนยอดเขา พร้อมทั้งปรากฏแสงที่เรียกกันว่า"แสงพระพุทธ" ซึ่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชมกันมากมาย โดยเฉลี่ยปรากฏการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นเดือนละ 2 ครั้งเท่านั้น รวมทั้งต้นสนหวงซานที่มีรูปร่างดูแปลกตา เพราะความงดงามที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เขาหวงซานจึงมักจะถูกกล่าวขานจากนักกวีในราชสำนักจีนบ่อยครั้ง ศิลปินที่วาดรูปมักจะนำเทือกเขาหวงซานกับหมู่ทะเลหมอกที่ล่องลอยอ้อยอิ่งไล้บนยอดเขาสูงของหวงซาน เป็นภาพที่เราเห็นกันบ่อยในภาพวาดของจีน และมีอยู่ในวรรณกรรมจีนหลายเรื่องอีกด้วย จึงทำให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในโลกที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวจีนต้องไปสัมผัส มีพื้นที่บนเทือกเขามากถึง 154 ตารางกิโลเมตร และทอดยาวรอบๆ เขาอีก 142 ตารางกิโลเมตร. มียอดเขาจำนวนมากที่มีระดับความสูงกว่า 1000 เมตร มียอดเขาสูง 3 อันดับแรก ได้แก่ ยอดเขาเหลียนหัวหรือยอดเขาดอกบัว สูง 1,867 เมตร ยอดเขากวงหมิงหรือยอดเขาสว่าง สูง 1,840 เมตร ยอดเขาเทียนคู่ ยอดเขาเมืองหลวงแห่งสวรรค์สูง 1,829 เมตร อากาศค่อนข้างเย็นสบายๆ ถ้ามีฝนตกก่อน แล้วมีแสงแดด ละอองหมอกจะกลายเป็นทะเลหมอกให้เราเก็บภาพได้อย่างสวยงามน่าชม

เขาหวงซานถูกค้นพบเมื่อ 100 ล้านปีก่อนในยุคเมโซโซ ในราชวงศ์จิ๋น เขาลูกนี้เดิมชื่อว่า “ยี่ซาน” ฮ่องเต้หวงตี้ เดินทางมาเสาะแสวงหายาอายุวัฒนะ เพื่อเพิ่มพลังต่ออายุ เพราะเห็นคนในมณฑลอันฮุยมีอายุยืนสุขภาพดี เมื่อเดินทางมาถึงที่เขาหวงซาน ด้วยอากาศบริสุทธิ์ ทิวทัศน์สวยงาม ทำให้สุขภาพจิตแจ่มใส ทำให้ฮ่องเต้หวงตี้ บอกว่าได้ค้นพบยาอายุวัฒนะแล้ว เพื่อเป็นการรำลึกถึงฮ่องเต้หวงตี้ ที่พระราชดำเนินเสด็จมายังเมืองนี้ เขายี่ซานเลยเปลี่ยนชื่อมาเป็น “เขาหวงซาน”

เมื่อไปถึงไปถึงเชิงเขาหวงซานแล้ว เราต้องตีตั๋วขึ้นรถบัสเล็กอีกทอดหนึ่ง เพื่อเดินทางไปยังจุดที่มีกระเช้าไฟฟ้า ผ่านเส้นทางเล็กๆ คดเคี้ยวบนภูเขา ไปจนถึงลานกระเช้าไฟฟ้า จากนั้นพวกเราต้องซื้อตั๋วอีกครั้งเพื่อนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปยอดภูเขา ค่ากระเช้าขึ้นลงคนละ 80 หยวน (1 หยวนเท่ากับ 5 บาท) เขาหวงซานนั้นมีจุดให้เดินทางขึ้นไปบนยอดเขาด้วย มีกระเช้าไฟฟ้าขึ้นลง 3 แห่ง เราเลือกขึ้นทางเขาเทียนคู่ เพราะไฮไลท์ด้านนี้คือสรวงสวรรค์ กระเช้าไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้เราเห็นทิวทัศน์เทือกเขาสลับซับซ้อนมากมายสวยงาม สร้างความตื่นตาตื่นใจจนอยากที่จะบรรยาย ยังเพลิดเพลินเจริญใจไม่ทันไร ก็ถึงสถานีปลายทางที่ยอดเขาเสียแล้ว แต่การที่ใครจะไปพิชิตเขาหวงซานนั้น ต้องบอกไว้ก่อนว่าต้องฟิตซ้อมร่างกายมาอย่างดี เพราะการเดินทางขึ้นเขานั้นไม่ง่าย เพราะมีจุดชมวิวหลายจุด แต่ละจุดทัศนียภาพก็แตกต่างกันไป แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็จะมีคนมารับจ้างแบกหามให้ในอัตราคนละ 300-500 หยวน ส่วนทิปนั้นแล้วแต่ความพอใจ  ส่วนการหามสัมภาระกระเป๋านั้นมีราคาตั้งแต่ 60-80 หยวน

 เราเดินลัดเลาะไปตามชายเขาที่ทางอุทยานเขาหวงซานได้สร้างทางเดินเอาไว้อย่างสวยงาม พวกเราเดินทางขึ้นยอดเขาสูงหลายแห่ง เดินไปคุยกันไป เหนื่อยก็หยุดพัก กว่าจะถึงจุดชมวิวแต่ละแห่งต้องใช้เวลา แวะจุดชมวิวแต่ละจุด พวกเราชมทัศนียภาพ ใช้จินตนาการในการมองยอดเขาและแท่งหินเห็นเป็นรูปต่างๆ อาทิ พระพุทธรูป เจ้าแม่กวนอิม คนนั่งเล่นหมากรุก พู่กันจีน หรือลิง ฯลฯ ตามแต่ที่จะจินตนาการ พร้อมทั้งลั่นชัตเตอร์เก็บภาพบรรยากาศโดยรอบ เป็นการพักไปในตัว เขาแต่ละลูกมีมนต์เสน่ห์สะกดให้เราอยู่เป็นเวลานาน การเดินขึ้นเขาแม้จะเหนื่อย แต่พอได้ซึมซับทัศนียภาพที่วิจิตรงดงามก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ยิ่งภาพที่มองลงมา 360 องศาจะเป็นภาพที่สวยงาม มองไปไกลได้ทุกทิศทาง นอกจากนี้บนเขาหวงซานยังมีต้นไม้มีดอกและต้นสนแปลกตา ที่นี่อากาศเบาบาง ต้นสนจีนจึงออกมาสวยงาม พวกเราใช้เวลาในการชมทัศนียภาพบนเขาหลายชั่วโมงก็ยังเดินชมได้ไม่หมด ก็หมดเวลาเสียแล้ว  เพราะกระเช้าไฟฟ้าปิดสี่โมงเย็น พวกเราเลยต้องรีบกลับลงมายังกระเช้าไฟฟ้า ไม่งั้นต้องเดินลงแน่ๆ การขึ้นไปชมเขาหวงซานต้องใช้เวลาหลายวันจึงจะเดินชมได้หมด

กลับลงมาจากเขาหวงซาน พวกเราก็เดินทางกลับเมืองถุนซี เมื่อมาถึงตัวเมืองเราแวะถนนโบราณถุนซี ที่อยู่ใจกลางเมือง เป็นถนนคนเดินดินมาตั้งแต่สมัยโบราณ เคยมีฮ่องเต้ในสมัยราชวงศ์ซ้ง ราชวงศ์หมิง เคยเดินทางเข้ามายังเมืองแห่งนี้ แม้ในอนาคตจะมีการเจริญเติบโตมากมาย แต่ไม่เคยทำลายวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่นี่ที่สืบทอดกันมายาวนาน 1,000 กว่าปี กาลเวลายังคงเป็นแค่เวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนถึงวันนี้ถนนโบราณถุนซียังคงยืนหยัดไม่ล่มสลายไปตามกาลเวลา จากรุ่นสู่รุ่นยังคงมีความเป็นเอกลักษณ์แบบโบราณดั้งเดิม

ถนนโบราณถุนซี สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 980-1286 ในสมัยราชวงศ์ซ้ง มีความกว้าง 2 เมตร ยาว 1,273 เมตร บ้านเรือนปลูกเรียงรายเป็นบ้านพักอาศัยและเป็นร้านค้าด้วย ใครอยากค้าขายอะไรก็เอามาค้าขายแลกเปลี่ยนกัน ทำให้ถนนโบราณแห่งนี้ กลายเป็นจุดนัดพบเพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า แม้ว่าเมืองนี้จะทุรกันดาร แต่ธรรมชาติเมืองนี้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อน ซื้อขายสินค้ากัน เมืองถุนซีจึงคึกคักตลอดเวลา  ยิ่งฮ่องเต้เสด็จมา เมืองนี้เลยกลายเป็นเมืองตากอากาศมาเติมเต็มในสิ่งที่ขาดหาย

ต่อมาในราชวงศ์หมิง ความเจริญรุ่งเรืองมีเพิ่มมากขึ้น พ่อค้าหัวใสนาม “เฉิงเหวยจง” มองเห็นจุดเด่นนี้ เลยสร้างร้านค้าขึ้นบนถนนสายนี้จำนวน 47 หลัง มีที่พักลักษณะโรงเตี้ยมหลายแห่ง การค้าขายในสมัยนั้นส่วนใหญ่แล้วมักจะค้าใบชา ธัญพืช สมุนไพร และสินค้าพื้นเมือง การค้าขายยังคงยึดหลักแนวนี้มานานนับ 1,000 ปี ฮ่องเต้หลายราชวงศ์เสด็จมาเมืองถุนซี มักจะเสด็จราชดำเนินมาทอดพระเนตรถนนโบราณแห่งนี้ ซึ่งเป็นตำนานเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงวันนี้ ใครที่มาเยือนเมืองถุนซีนี้มักจะหาเวลามาเดินท่องเที่ยวมาสัมผัสกลิ่นไออารยะธรรมที่ผ่านกาลเวลามานับ 1,000  ปี

 พวกเราก็เช่นกัน มาเมืองถุนซีทั้งที จะพลาดมาถนนโบราณถุนซีได้ยังไง  เมื่อพวกเรามาถึง เราก็เหมือนย้อนอดีตกลับไปยังสมัยโบราณ เพราะสภาพบ้านเรือน วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ยังคงสภาพเหมือในสมัยโบราณ ทำให้มีมนต์ขลังเป็นเสน่ห์ที่น่าสนใจ มาแล้วไม่ผิดหวังจริงๆ พวกเราเริ่มเดินจากลานกว้าง ที่มีกำแพงวัฒนธรรมบอกความเป็นมาของเมืองนี้มานานนับพันปี แถมมีซุ้มประตูที่เป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวจะต้องมายืนแอ็คชั่นถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก และยังเป็นจุดนัดพบ หากเดินหลงทางกัน

พวกเราเดินผ่านซุ้มประตูเขาสู่ถนนโบราณถุนซี  เดินชมความสวยงามของอาคารบ้านเรือนทรงโบราณที่ทำเป็นร้านขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวได้มาช๊อปปิ้ง สินค้าที่จำหน่ายมีมากมายพร้อมสรรพ ทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค อย่างเช่น เสื้อผ้า ชา น้ำพริก เต้าหู้ยี้ เหล้าโบราณ บัวหิมะ ขนมแบบโบราณที่ทำกันให้เห็นสดๆ หรือสินค้าแฮนด์เมด เดินไปชมไป ช้อปกันไป เวลาเดินผ่านร้านไหนๆ ก็จะมีพนักงานเรียกเข้าไปดูสินค้าหรือให้ชิมขนม แต่ถ้าเป็นร้านขายชา ก็จะมีการทำชาแต่ละรสชาติให้ชิม ถ้าถูกใจก็ซื้อกันไป ถ้าไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร

แต่ที่เตะตาพวกเราคือร้าน Thailand Buddha เป็นร้านจำหน่ายเครื่องรางของขลัง ที่มีพระเครื่องเกจิดังๆ ของเมืองไทยให้เช่า ทั้งเจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตรฯ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ครูบากฤษณะ หลวงพ่อรวย และอีกหลายเกจิ ฯลฯ  มาที่ถนนโบราณถุนซีแห่งนี้ สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังคือเรื่องการถ่ายหนักเบา เพราะถนนโบราณแห่งนี้ไม่มีห้องน้ำ จะมีเฉพาะเพียงร้านขายชาร้านเดียว แต่มีห้องเดียวเท่านั้น และก็มีที่ร้านแมคโดนัลด์ตรงลานกว้างที่พออาศัยได้ จากลานกว้างเดินไปอีกฟากหนึ่งของทางเข้าถนนโบราณ จะเป็นอาคารและร้านค้าสมัยใหม่ที่จำหน่ายสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม อาทิ NIKE adidas จึงทำให้เห็นการพัฒนาของการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ใครที่มาเยือนเมืองถุนซี ก็อย่าลืมแวะถนนโบราณสายนี้ มาชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ และวัฒนธรรมเโบราณถุนซี ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่น่าไปเยือน

            ตกค่ำ พวกเราก็เดินทางไปที่โรงละคร เซ็งเหม็ง กลางเมืองถุนซี เพื่อชมโชว์การแสดงที่ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้าง ด้วยระบบการแสดงแสงสีเสียงระบบ  5D เมื่อพวกเราเดินเข้าไปภายในโรงแสดง ซึ่งเป็นโรงแสดงที่กว้างขวางรโหฐาน เมื่อใกล้เวลาที่จะแสดง ผู้ชมก็ต่างทยอยกันเข้ามาภายใน จนโรงแสดงแน่นไปด้วยผู้ชม และแล้วก็ได้เวลาที่ทุกคนรอคอย การแสดงเริ่มจากการแสดงตลกเรียกน้ำย่อย การแสดงของที่นี่จะแบ่งออกเป็น 5 ช่วง เล่าขานตำนานเรื่องราวของผู้คนในมณฑลอันฮุย การดำเนินวิถีชีวิตของคนของที่นี่อย่างต่อเนื่อง ม่านเปิดมาฉากแรกด้วยการแสดงเสียงพร้อมเสียงกระหึ่มชองความยิ่งใหญ่ ผู้เฒ่าโผล่ขึ้นมาจากเวทีเป็นตัวเล่าเรื่องพร้อมด้วยแสงสีตระการตา 

จากนั้นก็จะมีนักแสดงออกมาร่ายรำที่มีฉากหลังเป็นทัศนียภาพของเขาหวงซานที่สวยงาม เรียกได้ว่ามีความพร้อมสรรพทั้งการแสดงรีวิวที่ผสมผสานกับระบบแสงสีเสียงที่ตื่นตาตื่นใจ ซึ่งเราไม่เคยเห็นการแสดงแบบนี้ในเมืองไทย การแสดงทำให้เราทึ่งตื่นตาตื่นใจมาก ตรึงให้เราจ้องไปที่เวทีตลอดเวลาเหมือนมนต์สะกด การแสดงจะแสดงไปเรื่อยๆ บอกเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวพันกับวิถีชีวิตของคนหวงซาน กล่าวถึงคนมณฑลอันฮุยดินแดนแห่งความยากจน หนุ่มๆ เติบโตมาในระหว่างอายุ 13-14 ปี จะต้องออกเดินทางไปแสวงหาชีวิตใหม่จากที่แห่งอื่น เพื่อทำงานสร้างฐานะจนร่ำรวย กลายเป็นเถ้าแก่ในขณะอายุเพิ่งจะผ่าน 20 ปีต้นๆ กลายเป็นเศรษฐีเพราะขยัน...เมื่อรวยก็แต่งงาน เศรษฐีหนุ่มได้แต่งงานกันนางฟ้าสวยที่สุด อยู่กันได้เพียงปีเดียว ก็ออกเสาะแสวงหาการค้าเดินทางไปต่างถิ่น ทิ้งภรรยานางฟ้าให้อยู่อย่างเดียวดายกับกองเงินตรามากมาย จนกระทั่งคลอดบุตรออกมาเป็นชาย สามีก็ยังไม่กลับมา ทำให้เธอว้าเหว่ตรอมตรมมาก ทำให้นางฟ้าโทมนัสมาก เลี้ยงลูกน้อยจนเติบใหญ่ ส่งเสียร่ำเรียน เด็กหนุ่มมีความมุมานะกับการเดินทางไปศึกษาต่อ เพื่อจะสอบจอหงวนเข้ารับราชการในราชสำนัก และคิดออกเดินทางไปตามหาบิดา ปล่อยให้มารดาต้องทุกข์ระทมอยู่ข้างหลัง สามีก็หายไปนานเกือบ 20 ปี ลูกออกไปตามหาพ่อก็หายไปอีก นางฟ้าได้แต่เศร้าโศกเสียใจ อยู่ที่เมืองถุนซี หวงซาน รอการกับมาของคนทั้งสอง 

การรอคอยของนางฟ้าไม่ผิดหวัง แม้ว่าสามีจะไม่ได้กลับมาดูแลเธอในขณะป่วย ลูกชายที่หายไปหลายปีกลับมาพร้อมกับตำแหน่งจอหงวนชื่อดังของราชสำนัก นางฟ้ามีโอกาสได้ชื่นชมความสำเร็จของจอหงวนลูกชายได้ไม่นาน นางฟ้าได้สิ้นใจลงในอ้อมแขกอดของลูกชาย เรื่องราวจบลงด้วยความเศร้า ละครนี้มีเพลงประกอบในแต่ละช่วงไพเราะมากซาบซึ้งใจ การแสดงนี้พวกเราแม้แต่ผู้ชมก็ต้องยกนิ้วให้ว่า เป็นการแสดงโชว์ที่สุดยอด ตื่นตาตื่นใจ ยิ่งใหญ่อลังการจริงๆ แม้ว่าพวกเราจะฟังไม่ออก แปลไม่ได้ แต่ก็พอจะดูเนื้อหาเรื่องราวออกบ้าง ถ้ามาหวงซานลองแวะมาชมที่โรงละคร เซ็งเหม็ง

นักท่องเที่ยวท่านใดสนใจจะไปสัมผัสความสวยงามของเมืองถุนซี สาธารณรัฐประชาชนจีน พิชิตมรดกโลกเขาหวงซาน สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัทวีคเอนด์ทัวร์ แอนด์ คาร์โก้ เซอร์วิส โทร. 02 712 0080-9