“เอส โฮเทล แอนด์รีสอร์ท” เดินหน้าปั้นแบรนด์อย่างยั่งยืน เผยโฉมแบรนด์ไลฟ์ สไตล์ใหม่เตรียมเปิดตัวทั่วไทยและเอเชียแปซิฟิก
SHR เตรียมผลักดันสองแบรนด์ นํา SAii (ทราย) และ nabor (เนเบอร์) ภายใต้คอนเซปต์ไลฟสไตล์ ตั้งเป้ารีแบรนด์และการเปิดตัวโรงแรมและรีสอร์ทแห่งใหม่ปีหน้าผสานแรงบันดําลใจจากท้องถิ่นสู่การพักผ่อนทีแตกต่างและสไตล์ที่ตอบโจทย์นักเดินทางยุคดิจิทัล
แผนการพัฒนาเหล่านี้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางขององค์การสหประชาชาติ (United Nations’ Sustainable Development Goals) 6 ประการที่ “เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท” มุ่งมั่น ปฏิบัติตลอดมาผ่านการดำเนินงานที่เกี่ยวกับการบริโภคที่ยั่งยืน การลดมลพิษจากขยะใน ทะเล โครงการโรงแรมคาร์บอนต่ำ โครงการให้ความรู้และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสำหรับเด็ก การจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบในชุมชน การสนับสนุนอาหารท้องถิ่นและสิทธิมนุษยชน
หัวใจสำคัญของกลยุทธ์การเติบโตของ “เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท” คือแบรนด์ไลฟ์ สไตล์ใหม่ๆ ได้แก่ “SAii” (ทราย) ซึ่งเป็นแบร นด์โรงแรมและรีสอร์ทระดับบน (UpperUpscale) ด้วยบุคลิกแบรนด์ที่สนุก สนาน และมอบความอิสระให้กับนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์การพักผ่อนรูปแบบใหม่ๆ และ“nābor” (เนเบอร์) แบรนด์โรงแรมและรีสอร์ทใหม่ล่าสุดของ SHR ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ชาญฉลาดและใช้ชีวิตด้วยดิจิทัล nābor เป็นแบรนด์ระดับกลางที่คุณภาพเทียบเท่าระดับลักชัวรี่ (Luxury Midscale) นำเสนอการพักผ่อนที่มีสไตล์ เข้าถึงง่าย สะดวกสบายตามมาตรฐานสากล โดยจะเปิดตัวโรงแรมและรีสอร์ทใหม่อย่างน้อย 6 แห่งภายในปี 2564 ซึ่งแผนการเปิดตัวเหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์การพัฒนาของ SHR ที่มีแผนจะเพิ่มพอร์ตโฟลิโอเป็น 2 เท่าภายใน 5 ปีจากโรงแรม 39 แห่ง (4,647ห้อง) เป็น 82 แห่ง (9,000ห้อง) ภายในปี 2568
“SAii” (ทราย) เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2562 พร้อมกับ “ทรายลากูน มัลดีฟส์” (SAii Lagoon Maldives) รีสอร์ทบนเกาะมัลดีฟส์ที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่โครงการ “ครอสโร้ดส์มัลดีฟส์” (CROSSROADS Maldives) จุดหมายปลายทางสำหรับการพักผ่อนและไลฟ์สไตล์แห่งแรกของมัลดีฟส์โดย SHR มีแผนที่จะเปิดตัวรีสอร์ทภายใต้แบรนด์ “SAii” อีก 2 แห่งในประเทศไทยในไตรมาสแรกของปี 2564 ได้แก่ “ทราย ลากูน่า ภเูก็ต” (SAii Laguna Phuket) และ “ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ” (SAii Phi Phi Island Village) “ทราย ลากูน่า ภูเก็ต” (SAii Laguna Phuket) รีสอร์ทริมทะเลแห่งใหม่ภายใต้แบรนด์ SAii ที่จะตั้งอยู่ใจกลาง “ลากูน่า ภูเก็ต” (Laguna Phuket) ชุมชนรีสอร์ทชั้นนำของประเทศไทย ผู้เข้าพักจะได้สัมผัสกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่พลิกโฉมให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น รวมถึงห้องจัดงานรูปแบบใหม่ ร้านอาหารริมทะเลและบาร์ริมชายหาดที่สวยงามมากกว่าที่เคย และอื่นๆ มากมายให้บริการห้องพักและห้องสวีทที่กว้างขวางหลายห้อง มองเห็นวิวหาดบางเทาและทะเลอันดํามันสีฟ้ําใส พร้อมรอต้อนรับผู้เข้าพักด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรม อาหารเลิศรส และกิจกรรมสำหรับครอบครัว รวมถึงสไลเดอร์ที่ยาวที่สุดแห่งหนึ่งของภูเก็ต รีสอร์ทแห่งนี้จึงเหมาะสำหรับคู่รักครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ตลอดจนงานอีเวนท์และงานแต่งงานที่ไม่เหมือนใคร
"ทราย พีพี ไอส์แลนด์วิลเลจ” (SAii Phi PhiIsland Village) สวรรค์แห่งการ พักผ่อนเปิดตัวในไตรมาสที่ 1 ปี 2564 ครอบ คลุมพื้นที่กว่า 170 ไร่ริมชายหาดบนเกาะพีพีดอน ประเทศไทย ปัจจุบันเป็นที่รู้จักในชื่อ “พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท” (Phi Phi Island Village Beach Resort) ซึ่งจะได้รับการรีแบรนด์และตกแต่งใหม่สู่แบรนด์ SAii ด้วยเสน่ห์ความเป็นไทยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ย่างก้าวแรก ณ ล็อบบี้ของรีสอร์ทที่สวยงามตราตรึง สระว่ายน้ำรูปทรงอิสระ สปาบรรยากาศผ่อนคลาย ร้านอาหารที่มองเห็นวิวทะเล ไปจนถึงห้องพักพรีเมียมอย่าง “ฮิลไซด์ พูลวิลลา” (Hillside Pool Villa) พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวสำหรับการพักผ่อนที่เงียบสงบเป็นส่วนตัวและมองเห็นวิวอ่าวโละบาเกาอันสวยงาม นอกจากนั้นรีสอร์ทแห่งนี้ยังสนับสนุนให้นักเดินทางใส่ใจและรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมที่ “ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล” (Marine Discovery Centre) ซึ่งที่ตั้งอยู่ภายในรีสอร์ท และกิจกรรมทํางน้ำต่างๆ บริเวณรีสอร์ท
รีสอร์ทใหม่ทั้งสองแห่งของแบรนด์ “SAii” จะสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์ด้วยแนวคิดด้านสุขภาพ (Wellness) และเอกลักษณ์ด้านอาหาร โดยมีห้องอาหารและบริการซิกเนเจอร์มากมาย ประกอบด้วย “Mr Tomyam” (มิสเตอร์ต้มยำ) ให้บริการอาหารไทย พร้อมครัวแบบเปิด และพื้นที่รับประทานอาหารกลางแจ้ง “Miss Olive Oyl” (มิสโอลีฟออยล์) ห้องอาหารและบาร์เสิร์ฟอาหารทะเลปิ้งย่างสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน และ “Lèn Be Well” (เล่นบีเวล) ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกที่ “ทราย ลากูน มัลดีฟส์” เป็นกิจกรรมที่จะสร้างแรงบันดาลใจในการดูแลสุขภาพและการเป็นอยู่ที่ดี ผ่าน 5 องค์ประกอบ ได้แก่ โรแมนติก (Romance) ผ่อนคลาย (Relax) วัฒนธรรม (Culture) การผจญภัย (Adventure) และครอบครัว (Family) ผสมผสานกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการบำบัดร่างกาย การรับประทานอาหาร และอื่นๆ อีกมากมาย แนวคิดนี้ได้นำใปปรับใช้แล้วที่ “สันติบุรี เกาะสมุย” (Santiburi Koh Samui) รีสอร์ทสุดหรูริมทะเลบนเกาะสมุยที่สร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าพักที่ชื่นชอบด้านสุขภาพ (Health and Wellness) พร้อมมอบประสบการณ์ด้านสุขภาพผ่านสปาที่โดดเด่น กิจกรรมอันหลากหลาย และการรังสรรค์เมนูอาหารสุดพิเศษ
สำหรับปี 2564 เอส โฮเทล แอนด์รีสอร์ท จะเปิดตัว “nābor” (เนเบอร์) แบรนด์โรงแรมและรีสอร์ทที่ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องถิ่น ทางเลือกใหม่สำหรับกลุ่มตลาด “LuxuryMidscale” หรือตลาดระดับกลาง แต่คุณภาพระดับลักชัวรี่ที่เข้าถึงง่ายมากขึ้น เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวยุคใหม่ (Millennial-Minded Travellers) ไดออกไปสัมผัสที่สุดของการเดินทาง (OutThere) และสัมผัสแก่นแท้ของจุดหมายปลายทางที่พวกเขาไปเยือน ไม่ว่าจะเป็นสายรักธรรมชาติ สายชิลริมหาด และผู้ที่มองหาความสนุกสนานในตัวเมือง จุดมุ่งหมายของ “nābor” คือการนำเสนอกลิ่นอายที่แท้จริงของแต่ละสถานที่ โดยจะเปิดตัวในเดือนเมษายน 2564 ซึ่งโรงแรมแห่งแรกจะตั้งอยู่ที่บ่อผุด เกาะสมุย
มร. เดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์ (Dirk De Cuyper) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กลาวว่า “ปี 2564 จะเป็นปีที่สำคัญสำหรับ เอส โฮเทล แอนด์ รี สอร์ท ซึ่งเราเตรียมพร้อมที่จะขยายแบรนด์ไลฟ์สไตล์อย่างเต็มกำลัง โดยมีแผนที่จะรีแบรนด์และการเปิดตัวโรงแรมและรีสอร์ทแห่งใหม่ในปีหน้ําหลายแห่ง เพื่อที่จะสร้างอนาคตที่แข็งแรงและยั่งยืนให้กับ SHR เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้นําเสนอแนวคิดที่แตกต่างของเราไปยังหลากหลายจุดหมายปลายทางอันสวยงามทั่วเอเชีย ปัจจุบันความหรูหราไม่ใช่เพียงแค่ตัวผลิตภัณฑ์หรือกิมมิคในการบริการต่างๆ เท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวยุคใหม่ต้องการการเข้าพักที่ราบรื่น ได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจ สามารถค้นพบเสน่ห์และวิถีชีวิตที่แท้จริงของสถานที่นั้นๆ โดย SAii และ nābor มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์การเดินทางที่โดดเด่นและไม่เหมือนใคร หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มอบการพักผ่อนที่ลงตัว เข้าถึงง่ายและน่าประทับใจให้กับแขกทุกคนในปีหน้าและปีต่อๆ ไป”
ปัจจุบัน เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ทประกอบด้วยโรงแรมและรีสอร์ท 39 แห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาสมุทรอินเดียมหาสมุทรแปซิฟิก และสหราชอาณาจักรรวม 4,647 ห้อง โดย SHR มีเป้าหมายที่จะเพิ่มพอร์ตการลงทุนเป็น 2 เท่าภายใน 5 ปี ผ่านการลงทุนระหว่างประเทศ การซื้อกิจการ และการรับบริหารโรงแรม ซึ่งรวมถึงการเติบโตของ “SAii" และ “nābor” โดยมุ่งเน้นไปที่การเปิดตัวโรงแรมในเครือในทำเลเอเชียแปซิฟิ กและมหาสมุทรอินเดีย
แม้จะมีการชะลอตัวทั่วโลก แตปี 2563 ถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จสำหรับ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท โดย SHR ได้รับรางวัลมากมาย ซึ่งเป็นการตอกย้ำคุณภาพของโรงแรมและรีสอร์ทจากความพยายามด้านสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย SHR ได้รับรางวัล Asia Responsible Enterprise Awards ในสาขาผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม (Green Leadership) และ “สันติบุรีเกําะสมุย” ลงนามปฏิญญาเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของยูเนสโก (UNESCO Sustainable Tourism Pledge) “พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท” ได้รับรางวัล Responsible Thailand Awards ครั้งที่ 12 ในด้าน Marine and Nature จากโรงแรมกว่า 600 แห่งที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในสหราชอาณาจักร เพื่อยกย่องการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของไทย
ในขณะที่สมาชิก Trip Advisor ได้เลือกให้ สันติบุรีเกาะสมุย, พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท, ฮาร์ดร็อค โฮเทล มัลดีฟส์ และทราย ลากูน มัลดีฟส์ ได้รางวัล Travellers’ Choice และผู้อ่าน Condé Nast Traveler ทั่วโลกโหวตให้ พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท และฮาร์ดร็อค โฮเทล มัลดีฟส์ ได้รับรางวัล Condé Nast Readers’Choice Awards ขณะที่ ฮําร์ดร็อค โฮเทล มัลดีฟส์และทราย ลากูน มัลดีฟส์ ได้รับรางวัล World Luxury Hotel Awards และทราย ลากูน มัลดีฟส์ ยังได้รับรางวัลชนะเลิศ World MICE Awards อีกด้วย
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ทได้ที่ www.shotelsresorts.com และติดตามข่าวสารต่างๆ ได้ทาง Facebook, Instagram, YouTubeor LinkedIn
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น