“ราชบุรี ก็มีทุเรียน” ททท. จัด “โครงการ ถวายเทียนพรรษา พาชิมทุเรียน@ปากท่อ จังหวัดราชบุรี” ร่วมถวายเทียนพรรษา 3 วัดดัง พาลุย
สวนกินทุเรียนราชบุรี
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) สำนักงานราชบุรี นำโดย นางสาวปิยพัชร์ วงศ์โดยหวัง ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานราชบุรี
ร่วมกับ บริษัท เมืองไทยครีเอทีฟ แอนด์ ทัวร์ จำกัด และบริษัท วันเดอร์ลัสต์ ทัวร์
แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด ร่วมกันจัด “โครงการ ถวายเทียนพรรษา พาชิมทุเรียน@ปากท่อ
จังหวัดราชบุรี” ตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร
โดยการจัดคาราวาน ทั้งรถตู้และบิ้คไบค์ วันที่ 19. 25, และ
26 มิถุนายน 2565 นำนักท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศ
โดยทุกทริปได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามเต็มทุกทริป
อิ่มทั้งบุญถวายทียนเข้าพรรษา แถมบุกสวนทุเรียน.ปากท่อ จังหวัดราชบุรี ชิม ชม
ช้อป ทุเรียนคุณภาพชั้นดี
ขบวนคาราวาน
“โครงการถวายเทียนพรรษา
พาชิมทุเรียน@ปากท่อ
จังหวัดราชบุรี” เริ่มต้นออกเดินทางจากโรงแรม
เดอะ บาซาร์ แบงค็อก รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่อำเภอโพธาราม
จังหวัดราชบุรี โดยมีจุดหมายปลายทางแรกคือวัดพระศรีอารย์ เมื่อไปถึงนางสาวจุไรรัตน์
ชัยทวีทรัพย์ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานราชบุรี ตัวแทนนางสาวปิยพัชร์
วงศ์โดยหวัง ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานราชบุรี ก็มาคอยต้อนรับ
พร้อมร่วมในขบวนด้วย ภายในวัดบริเวณลานหน้าวัดมีท้าวเวสสุวรรณ โคตรเศรษฐี
ขนาดความสูง 8.99 เมตร ในทางพระพุทธศาสนา
เชื่อกันว่าเป็นเทพที่มีฤทธิ์มาก และยังเป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในเทพผู้ทำหน้าที่จตุโลกบาล
โดยเฉพาะการพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนา พวกเรากราบสักการะขอโชคลาภ
การเงิน การงาน ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ป้องกันตัว และเสริมบารมี หลังกราบขอพรเรียบร้อย
พวกเราก็เดินเข้าไปในอุโบสถทองคำร้อยล้าน ซึ่งถือเป็น Unseen
ของจังหวัดราชบุรี ตัวพระอุโบสถตกแต่งด้วยงานปูนปั้นสีทองทั้งหลัง
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหยกขาว ศิลปะพม่า พระประธาน ซึ่งหลวงพ่อขันธ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์
ได้เดินทางไปยังพม่าพร้อมกับหลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
และได้ทำการอัญเชิญนำกลับมาจากเมืองมัณฑะเลย์
เพื่อประดิษฐานไว้ที่วัดพระศรีอารย์แห่งนี้ เพื่อร่วมถวายเทียนพรรษาแด่พระสงฆ์ โดยมีพระครูวิทิตพัฒนโสภณ
เจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ เป็นผู้ทำพิธีในการถวายเทียนพรรษา
อานิสงส์ของผู้ที่ถวายเทียนพรรษาจะรับคือ ทำให้เกิดปัญญา ทั้งชาตินี้และชาติหน้า
เปรียบเสมือนแสงสว่างแห่งเทียน ทำให้สว่างไสวรุ่งเรือง
ผู้ถวายย่อมทำให้มีความรุ่งเรืองด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ ทำให้คลี่คลายเรื่องราวต่างๆ
ที่มีปัญหา ให้เรื่องร้ายกลายเป็นดี เจริญไปด้วยมิตรบริวาร
ย่อมเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย
เมื่อจากโลกนี้ไปย่อมมีกายทิพย์อันสว่างไสว
เมื่อลาลับโลกนี้ไปย่อมไปสู้สุคติสวรรค์ และหากมีบารมีมากพอ
ย่อมทำให้เกิดดวงตาจักษุ คือปัญญารู้แจ้งเข้าสู่พระนิพพาน หลังถวายเทียนพรรษาแล้ว พวกเราก็ไปกราบสรีระสังขารสภาพไม่เน่าไม่เปื่อยของหลวงพ่อขันธ์
อดีตเจ้าอาวาส ที่ตั้งอยู่ในโลงแก้ว ท่านได้มรณภาพเมื่อประมาณปี
พ.ศ. 2534
ต่อด้วยการถวายเทียนพรรษาที่วัดถ้ำน้ำ อำเภอโพธาราม วัดถ้ำน้ำแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาว่า
คืนหนึ่งหลวงเงิน ขันติโก อดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำน้ำ นั่งสมาธิก็เห็นถ้ำน้ำเป็นถ้ำเงียบสงบเหมาะกับการนั่งกรรมฐาน
ท่านก็เลยตามหาถ้ำน้ำแห่งนี้ แล้วก็พบตามที่เห็น หลวงพ่อเงินนั่งสมาธิกรรมฐานภายในถ้ำน้ำอยู่นานพอสมควร
ก็เห็นว่าถ้ำน้ำนี้มีน้ำไหลผ่านตลอดเวลาไปออกลำคลองใช้เรื่องการเกษตรของชาวบ้าน
ต่อมาจึงได้ร่วมกับชาวบ้านในละแวกบ้านใกล้เคียงพัฒนาถ้ำน้ำให้เป็นวัดถ้ำน้ำขึ้นมา แล้วพัฒนากลายเป็นถ้ำน้ำที่สวยงาม พวกเรากราบสรีระสังขารของหลวงพ่อเงิน ขันติโก อดีตเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าไม่เปื่อย
ก่อนถวายเทียนพรรษาแด่พระสงฆ์ โดยมี พระอธิการพนอ วรธมฺโม เจ้าอาวาสวัดถ้ำน้ำ
เป็นผู้ทำพิธีในการถวายเทียนพรรษา หลังถวายเทียนพรรษาแล้ว พวกเราก็เดินทางเข้าถ้ำ ภายในถ้ำน้ำกว้างใหญ่มีลำธารน้ำไหลผ่าน
แต่ทางวัดได้ทำเป็นสะพานเดินชมความงามนของเราของถ้ำ ซึ่งตลอดเส้นทางมีพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบสักการะ
ไม่ว่าจะเป็นพญานาค พระพุทธปางไสยาสน์ พระสิวลี รูปปั้นฤาษี
ท่านท้าวพยายม ภาพที่เกิดจากธรรมชาติบนผนังถ้ำที่มีลวดลายและรูปร่างเหมือนเจ้าแม่กวนอิมมาก องค์เจ้าแม่กวนอิม และพญาครุฑ ส่วนด้านบนสูงสุดของถ้ำประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อดำและพระพิฆเนศ
นอกจากนี้ภายในถ้ำยังมีหินงอกหินย้อยเปล่งประกายระยิบระยับสวยงาม โดยเสาหินที่ตั้งอยู่บริเวณกลางถ้ำ
สันนิษฐานว่าเกิดจากการน้ำที่บนเพดานถ้ำหยดกลายเป็นเสาหินงอกหินย้อยขนาดใหญ่ แต่ช่วงนี้ถ้ำน้ำจะเปิดให้เข้าชมเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น
หลังเข้าชมความสวยและกราบสักการะพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในถ้ำแล้ว
คาราวานของเราก็เดินทางไปวัดถ้ำสติ หรือวัดป่าพุทธาราม อำเภอโพธาราม วัดแห่งนี้แต่เดิมเป็นที่พำนักสงฆ์
ต่อมาได้กลายเป็นสำนักแม่ชี โดยมี แม่ชีชอ้อน พัวเจริญ เป็นเจ้าสำนัก
กระทั่งปี พ.ศ.2549 ได้นิมนต์พระอาจารย์สุรินทร์ รตนโชโต
มาเป็นเจ้าสำนักแล้วได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส
ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาจัดตั้งเป็นวัดป่าพุทธาราม พวกเราถวายเทียนพรรษาทแด่พระสงฆ์ โดยมีหลวงพ่อสุรินทร์ รตนโชโต
เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธาราม เป็นผู้ทำพิธีในการถวายเทียนพรรษา
หลังถวายเทียนพรรษาแล้ว พวกเราก็เดินเข้าถ้ำเพื่อกราบสักการะพระพุทธะมหาคันธาราช
(พระนั่งเมืองแก้ว) พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา
ประทับนั่งห้อยพระบาทวางไว้บนดอกบัว รูปแบบสมัยทวารวดี มีความสูงประมาณ 3 เมตร 9
เซนติเมตร เป็นพุทธรูปหินแกะสลักจากหินแกรนิตผนังถ้ำซึ่งเป็นหินธรรมชาติอายุหลายพันปี ใช้เวลาแกะสลักราว 6 ปี ถือว่าเป็นพระพระพุทธรูปหินแกะสลักแบบลอยตัวติดกับตัวถ้ำแห่งแรกของประเทศไทย
และเป็นแห่งที่ 2 ของโลก (องค์แรกอยู่ที่ประเทศศรีลังกา) และเป็น Unseen
แห่งใหม่ของอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี การกราบสักการะพระนั่งเมืองแก้ว
มีความพิเศษของการไหว้ขอพรก็คือ ผู้มาสักการบูชาต้องก้มกราบระหว่างพระบาท
จากนั้นลอดใต้พระเพลา(ขา) เวียนขวา 3 รอบ เพื่อให้ได้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา
หลังจากถวายเทียนครบ 3 วัดดังแล้ว ก็ถึงเวลาทานอาหารกลางวัน มื้อนี้ทาง ททท. สำนักงานราชบุรี จัดเลี้ยงต้อนรับคณะคาราวานของเราที่สวนอาหารมะม่วงคู่ โดยมี นางสาวปิยพัชร์ วงศ์โดยหวัง ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานราชบุรี พร้อมนางสาวจุไรรัตน์ ชัยทวีทรัพย์ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานราชบุรี มากล่าวต้อนรับ
ทานอาหารกันจนอิ่มแล้ว
ก็ได้เวลาพักผ่อนหย่อนใจ ผ่อนคลายกัน ณ ก่องกานท์ คาเฟ่ อำเภอปากท่อ เป็นคาเฟ่ที่มีคอนเซ็ปต์ไม่เหมือนใครคือ “เป็นฟาร์มคาเฟ่”
โดยเอาวัตถุดิบที่มีอยู่ในสวนของตัวอง ทั้งผัก ผลไม้ ที่ปลอดสารพิษมาวางจำหน่าย หรือนำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูแปลกใหม่ทั้งอาหาร
เครื่องดื่ม และขนม นอกจากนี้ยังมีของฝาก รวมทั้งสินค้าชุมชนมาวางจำหน่ายด้วย
แล้วก็ได้เวลาไปลุยสวนผลไม้ปลอดสารพิษของอำเภอปากท่อ
โดยคาราวานของเราไป 2 สวนด้วยกัน คือ “ไร่พรหมรังษี” และ ”สวนนิลมังกร”
เพลินเพลิดกับการทานทุเรียนหมอนทองที่มีรสชาติไม่แพ้ที่ใด สนุกกับการเก็บเงาะสดๆ
จากต้น ชม ชิม แชะ และช้อป ผัก ผลไม้สดๆ รสอร่อยภายในไร่ ทั้งทุเรียนหมอนทอง
เงาะหวานกรอบ มังคุด ฯลฯ
อิ่มบุญ
อิ่มท้อง อิ่มใจ กันถ้วนหน้า ก็ได้เวลากลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น