“โฮปเวลล์” ทวงคมนาคม+รฟท. คืนเงิน 1.18 หมื่นล้าน
ห่วงภาพลักษณ์ประเทศไทยในสายตานักลงทุนต่างชาติ
ผู้บริหารโฮปเวลล์ฯ
วอนกระทรวงคมนาคมและ รฟท.
หยุดใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมหน่วงเหนี่ยวการคืนเงินกว่าหมื่นล้านบาทตามคำวินิจฉัยชี้ขาดที่ถึงที่สุดแล้ว
เกรงจะส่งผลกระทบทางลบต่อการลงทุนในประเทศไทย ตลอดจนความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองไทย
นายคอลลิน เวียร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮปเวลล์
(ประเทศไทย) จำกัด แถลงข่าวทวงถามความเป็นธรรมจากกระทรวงคมนาคม
และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
ซึ่งเคยเป็นคู่สัญญาในสัญญาสัมปทานโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟยกระดับในกรุงเทพมหานคร
(Bangkok Elevated Road and Train System-BERTS) มูลค่า
80,000 ล้านบาท
โดยกล่าวว่า นับจากรัฐบาลไทย โดยกระทรวงคมนาคมและ รฟท. ได้บอกเลิกสัญญาเมื่อปี 2541
และบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อคณะอนุญาโตตุลาการ
โดยขอให้คณะอนุญาโตตุลาการ มีคำวินิจฉัยให้คู่สัญญาทั้ง 2
ฝ่ายคือ รฟท. และบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัดคืนสู่สถานะเดิม
พร้อมกับคืนเงินตอบแทน และเงินลงทุนที่ได้ลงทุนไปแล้ว
ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดตามที่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย)
จำกัด ร้องขอออกมาเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551
แต่ทั้งกระทรวงคมนาคม และ รฟท.
กลับยังมิได้มีการปฏิบัติให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ
“สาระสำคัญในคำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551
ระบุให้คืนสถานะเดิมแก่คู่สัญญาทั้ง 2
ฝ่าย และให้ รฟท.คืนเงินตอบแทน เงินลงทุน
รวมทั้งหนังสือค้ำประกันสัญญาสัมปทานและค่าธรรมเนียมแก่บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย)
จำกัด รวมทั้งสิ้น 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5
ต่อปี”
นับจากบัดนั้น
กระทั่งทุกวันนี้ ทั้งกระทรวงคมนาคม และ รฟท. ยังมิได้ดำเนินการใด ๆ ให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ
ทั้งที่เป็นคำวินิจฉัยที่เป็นไปตามสัญญาสัมปทาน
ซึ่งได้มีการลงนามร่วมกันตั้งแต่วันที่ 9
พฤศจิกายน 2533 ยิ่งไปกว่านั้นทั้งกระทรวงคมนาคม และ รฟท.
ยังแสดงท่าทีที่จะไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการอย่างชัดเจน
โดยการพยายามใช้กลไกทางกฎหมาย
ประวิงการปฏิบัติตามคำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ
และไม่เคารพคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดที่ได้วางบรรทัดฐานการวินิจฉัยคดีในลักษณะเดียวกันมามากกว่า
50 คดี รวมถึงความพยายามทำให้บริษัท โฮปเวลล์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นโมฆะหรือสิ้นสภาพ
“ความพยายามของกระทรวงคมนาคม
และ รฟท. มุ่งหวังเพียงเพื่อจะไม่ต้องคืนเงินให้แก่โฮปเวลล์ฯ
โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายต่อภาพลักษณ์การลงทุนของประเทศไทย
ต่อความเชื่อมั่นการลงทุนในประเทศไทยของนักลงทุนนานาชาติ รวมทั้งไม่คำนึงถึงเกียรติยศ
ศักดิ์ศรี และความซื่อสัตย์สุจริตในฐานะหน่วยงานภาครัฐ
ที่พึงต้องให้ความเคารพและปฏิบัติตามคำพิพากษาอย่างเคร่งครัด
โดยปราศจากข้อยกเว้นหรือข้ออ้างใดๆ”
นายคอลลิน
เวียร์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า หากหน่วยงานภาครัฐไม่เคารพในคำพิพากษา
ในที่สุดคำพิพากษาถึงที่สุดของทุกศาลจะไร้ความหมาย
และเป็นข้ออ้างสำหรับคนไม่สุจริตในการรื้อฟื้นให้มีการพิจารณาคดีใหม่อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
กระทั่งก่อให้เกิดความระส่ำระสายในกระบวนการยุติธรรม
แล้วการปกครองบ้านเมืองตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองจะดำเนินต่อไปได้อย่างไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น