วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ททท. ร่วมลงนาม LOI กับ แอปพลิเคชั่น Fliggy แพลตฟอร์มท่องเที่ยวยอดนิยมในตลาดจีน

ททท. ร่วมลงนาม LOI กับ แอปพลิเคชั่น Fliggy แพลตฟอร์มท่องเที่ยวยอดนิยมในตลาดจีน 

มุ่งหวังกระตุ้นการเดินทางตลาดนักท่องเที่ยวจีน 

พร้อมสร้างความเชื่อมั่นและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีในการท่องเที่ยวไทย



       นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) กับ Mr. Tyrion Tong รองประธานบริษัท Zhejiang Fliggy Network Technology เพื่อร่วมกันส่งเสริมการขายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีน พร้อมสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ Mr. Zhuoran Zhuang รองประธานบริหารอาลีบาบา กรุ๊ป และประธานบริหาร บริษัท Zhejiang Fliggy Network Technology เข้าร่วมเป็นสักขีพยานการลงนาม LOI ดังกล่าว ณ อาคาร ททท. สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2พฤศจิกายน 2566 

ทั้งนี้ แอปพลิเคชั่น Fliggy เป็นแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ยอดนิยมในตลาดจีน บริษัทในเครือ Alibaba กรุ๊ป

      นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ตลาดนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นตลาดสำคัญของประเทศไทย การบูรณาการความร่วมมือกับแอปพลิเคชั่น Fliggy ในเครืออาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group) ครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเสริมแรงมาตรการยกเลิกการตรวจลงตราทางการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 (5 เดือน) แล้ว ยังถือเป็นการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในระยะยาวกับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งในตลาดจีน เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลทางการท่องเที่ยว และยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพจากสาธารณรัฐประชาชนจีน

     นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าประเทศไทยในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาด โดยนักท่องเที่ยวร้อยละ 86 จำแนกเป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวแบบ FIT ที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง ถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวศักยภาพที่มีกำลังซื้อ มีระยะเวลาพำนักเฉลี่ย 7.88 คืนซึ่งยาวนานกว่า และค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 คิดเป็นจำนวน 56,000 บาทต่อทริป ในขณะที่ข้อมูลจาก Alipay ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออาลีบาบากรุ๊ปเช่นกัน พบว่านักท่องเที่ยวจีนที่ใช้บริการผ่าน Alipay มีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว โดยยังไม่รวมค่าที่พักสูงถึง 20,000 บาทต่อคนต่อทริป ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับปี 2562 ดังนั้น การลงนามร่วมกับแอปพลิเคชั่น Fliggy แพลตฟอร์มบริการด้านท่องเที่ยวออนไลน์ยอดนิยมของจีนซึ่งมีบัญชีผู้ใช้มากกว่า 500 ล้านบัญชี และมีบริการที่ครบวงจร (One Stop Service) ครอบคลุม

 ตั้งแต่การสำรองบัตรโดยสารเครื่องบิน ที่พัก ทัวร์ส่วนตัว จะเพิ่มโอกาสในการนำเสนอสินค้าและบริการคุณภาพของประเทศไทยในตลาดจีนผ่านแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพและได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง รวมถึงเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์เชิงบวก เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางการท่องเที่ยวไทยในตลาดจีน และเร่งกระตุ้นรายได้ทางการท่องเที่ยวจากกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพของจีนด้วย


สำหรับการลงนาม LOI ระหว่าง ททท. และแอปพลิเคชัน Fliggy ในครั้งนี้ มีความร่วมมือที่ครอบคลุมการร่วมกันนำสมาร์ทเทคโนโลยีมาใช้เพื่อยกระดับประสบการณ์ในการท่องเที่ยว และการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวนำร่อง การนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทยบนแพลตฟอร์ม Fliggy การส่งเสริมและนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่มีศักยภาพ (Potential Hidden Gem Destinations) แก่นักท่องเที่ยวจีน การร่วมผลิตและเผยแพร่เนื้อหาประชาสัมพันธ์สำหรับตลาดจีน การร่วมจัดแคมเปญส่งเสริมตลาดสำหรับอีเว้นท์ และเทศกาลต่างๆ อาทิ เทศกาลตรุษจีน Golden Week เป็นต้น รวมถึงทาง Fliggy จะจัดทีมบริการให้ความช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยวจีนตลอด 24 ชั่วโมงทั้งในรูปแบบออนไลน์และศูนย์ให้บริการข้อมูลข่าวสารในพื้นที่ที่กำหนด โดย ททท. จะสนับสนุนการจัดอบรมและให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องแก่เจ้าหน้าที่ของ Fliggy ด้วย


 

จากสถิติของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 22 พฤศจิกายน 2566 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยแล้วประมาณ 3 ล้านคน โดยเป็นตลาดนักท่องเที่ยวอันดับ รองจากมาเลเซียที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยมากที่สุด ทั้งนี้ ททท.มุ่งส่งเสริมความเชื่อมั่นและกระตุ้นการขายในตลาดจีนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการส่งเสริมภาพลักษณ์เชิงบวกผ่านการจัดกิจกรรมแฟมทริป การนำศิลปินผู้มีชื่อเสียงร่วมเดินทางและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในตลาดจีน และร่วมกับพันธมิตรในตลาดจีนในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเร่งผลักดันรายได้นักท่องเที่ยวจีนสู่เป้าหมาย

 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งาน “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย Chiang Rai Flower and Art Festival 2024”

งาน “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย Chiang Rai Flower and  Art Festival 2024”  16 ธ.ค. 2567 ถึงวันที่ 5 ม.ค. 2568  ณ สวนไม้งามริมน้ำกก         ...