วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2566

สสว. จับมือ สทท. ขับเคลื่อนโครงการ “SME Restart 2566”

สสว. จับมือ สทท. ขับเคลื่อนโครงการ SME Restart 2566”




     
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จับมือ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ร่วมกันจัดกิจกรรมอบรมสัมมนา Tourism Transform โครงการ SME Restart ปี 2566 "เตรียมพร้อม SME สู่การท่องเที่ยววิถีใหม่ เชื่อมโยงชุมชน สร้างรายได้แบบยั่งยืน"




         ภายในงานจัดให้มีการแถลงข่าวโครงการ SME Restart 2566 โดย ดร.วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สสว. และนายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธาน สทท. พร้อมการเสวนาพิเศษ เรื่อง "การขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทยให้ยั่งยืน" โดย นายวชิระ แก้วกอ รองผู้อำนวยการ สสว. นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธาน สทท. นายกิตติ พรศิวะกิจ ประธาน Smart Tourism สทท. และบอร์ด ททท. นายประคอง สายจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักท่องเที่ยวโดยชุมชน (สทช.) องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. และนายกรณรงค์ ทองหนู นายกสมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย (สนท.) ท่ามกลางคณะกรรมการ สทท. อาทิ ว่าที่ร้อยตรีเอนก นุรักษ์ รองประธาน สทท. และประธานสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA ) นายอดุลชัย รักดำ นายโสพนา บุญสวยขัวญ นางสมทรง สัจจาภิมุข นายสุรวัช อัครมาศ  และผู้เข้าอบรม เพื่อเตรียมพร้อม SME สู่การท่องเที่ยววิถีใหม่ เชื่อมโยงชุมชน สร้างรายได้แบบยั่งยืน คาดสร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 500 ล้าน ณ ห้องบอลรูม 2 โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์




       นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการ SME Restart 2566 ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว เพื่อเตรียมความพร้อม ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ว่า โครงการดังกล่าว มุ่งเน้นเรื่องการเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการกลุ่มท่องเที่ยว 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ใน 10 พื้นที่ เชื่อมโยงกับชุมชน 15 ชุมชน รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,000 ราย พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์วิถีการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ คาดจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท




        ในปี 2564 สสว. และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ได้ร่วมกันจัดโครงการ SME Restart เพื่อ Upskill/Reskill ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ภูเก็ต พังงา และสุราษฏร์ธานี กว่า 1,000 รายให้มีความพร้อมต่อการต้อนรับนักท่องเที่ยวในยุค New Normal จนเป็นให้เกิด Phuket Sandbox Model ที่เป็นต้นแบบในการเปิดประเทศอย่างปลอดภัยและได้รับการยอมรับไปทั่วโลก โดยในปีนี้ สสว. ได้ร่วมกับ สทท. อีกครั้งจัดโครงการ  SME Restart 2566 โดยมุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว Transform ธุรกิจให้มีความสามารถในการแข่งขันทั้งด้านสินค้า การตลาดและเทคโนโลยี ควบคู่กับการเติบโตอย่างยั่งยืน และเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวไปยังชุมชนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้สู่ชุมชนทั่วประเทศ ตามแนวคิด “เตรียมพร้อม SME สู่การท่องเที่ยววิถีใหม่ เชื่อมโยงชุมชน สร้างรายได้แบบยั่งยืน




        นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวเสริมว่า จากความสำเร็จของ SME Restart 2564ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วประเทศได้แจ้งความจำนงค์มาที่ สทท. ว่า อยากให้มีการจัดกิจกรรมดีๆเช่นนี้อีกทั่วประเทศ ทีมงาน สทท. เราจึงได้เดินทางร่วมกับผู้บริหาร สสว. ไปทั่วประเทศเพื่อทำ Focus Group สอบถามถึงความต้องการของผู้ประกอบการว่าสนใจที่จะปรับตัวในเรื่องใด และได้ข้อสรุปว่า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวยุคนี้ ต้องการพัฒนาใน 3 เรื่อง คือ Smart Tourism / Green Tourism และ Wellness Tourism ดังนั้น SME Restart 2566 นี้จึงมีการจัดกิจกรรมทั้งหมดใน 10 พื้นที่ คือ นครราชสีมา อุดรธานี ชลบุรี เชียงใหม่ พิษณุโลก นครศรีธรรมราช กระบี่ ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์ และกรุงเทพมหานคร และมีการเชื่อมโยงไปยังชุมชนที่โดดเด่นในเรื่อง BCG/SDG และ Wellness Tourism ไม่ต่ำกว่า 15 แห่ง เพื่อที่จะต่อยอดให้ผู้ประอบการและชุมชน มีกลยุทธการบริหารและตลาดที่ Smart มีการเล่าเรื่องที่ดีและต่อยอดไปสู่การเป็น Virtual Tourism ที่สามารถประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวไปยังกลุ่มเป้าหมายทั่วโลกได้อย่างน่าสนใจ







         นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สสว.กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังการฝึกอบรม จะมีการทำ Workshop การเชื่อมโยงธุรกิจ (Business Collaboration) และพัฒนาเชิงลึกให้กับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว 15 กลุ่ม โดยดำเนินการพัฒนาในด้านต่างๆ เช่น การปรับรูปแบบธุรกิจ (Business Model) การพัฒนาการเล่าเรื่อง (Storytelling) การสร้าง Digital Content การประสานเครือข่ายธุรกิจแบบ B2B และการท่องเที่ยวบนโลกเสมือน (Virtual Tour) ทั้งนี้ เพื่อสร้างต้นแบบกลุ่มท่องเที่ยวธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน และจัดทำต้นแบบทางธุรกิจ (Success Case) ในรูปแบบดิจิทัล เพื่อเผยแพร่ให้กับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ โดยคาดว่า เมื่อผู้ประกอบการนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการประกอบธุรกิจ จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งาน “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย Chiang Rai Flower and Art Festival 2024”

งาน “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย Chiang Rai Flower and  Art Festival 2024”  16 ธ.ค. 2567 ถึงวันที่ 5 ม.ค. 2568  ณ สวนไม้งามริมน้ำกก         ...