นกแอร์จัดไฟล์ทพิเศษ โปรโมทเส้นทางการบินและสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอเบตง เพื่อดึงนักท่องเที่ยวบินสู่เบตง
สายการบินนกแอร์
ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เทศบาลเมืองเบตง
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง และชมรมโรงแรมอำเภอเบตง ร่วมกันโปรโมทเส้นทางการบินและสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอเบตง
นายธีรพล โชติชนาภิบาล ประธานเจ้าหน้าที่สายการบินพาณิชย์ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) นำคณะผู้ประกอบการท่องเที่ยว, สื่อมวลชน Youtuber, Social Media, และ Influencer เดินทางด้วยสายการบินนกแอร์ จากท่าอากาศยานดอนเมืองมายังท่าอากาศยานนานาชาติเบตง เพื่อประชาสัมพันธ์เส้นทางการบินของสายการบินนกแอร์ดอนเมือง-เบตง และ เบตง-ดอนเมือง สร้างความเชื่อมั่นด้านการเดินทางโดยสายการบิน พร้อมโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองเบตง เพื่อชวนเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวเบตง โดยมี นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเมืองเบตง นางสาวนวพร ชัวชมเกตุ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนราธิวาส นายนรินทร์ เรืองวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตงและที่ปรึกษานายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง และนายพฤกษ์ วงศ์นามโรจน์ ประธานชมรมโรงแรมอำเภอเบตง ร่วมการต้อนรับ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเบตง เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2565
อำเภอเบตง เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดยะลา ใต้สุดแดนสยาม ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนคล้ายคลึงกับภาคเหนือของไทย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมีชื่อเสียงที่เป็นที่ขึ้นชื่อหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นจุดชมทะเลหมอก สกายวอล์ค อัยเยอร์เวง ที่กำลังเป็นที่นิยมมากที่สุดในขณะนี้ และยังมีจุดชมทะเลหมอกบนยอดเขาฆูนุงซิลิปัต ทะเลหมอกไต๋ต๋ง ทะเลหมอกสองแผ่นดินบ้านกาแป๊ะฮูลู สวนหมื่นบุปผาหรือสวนไม้ดอกเมืองหนาว บ่อน้ำร้อนเบตง อุโมงปิยะมิตร ต้นไม้พันปี ป่าฮาลาบาลาหรืออเมซอนแห่งเอเชีย อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ หอนาฬิกา ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุด พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ วัดพุทธาธิวาส (วัดเบตง) รวมทั้งมีอาหารอร่อยที่ให้ลิ้มลองมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ไก่เบตง ผักน้ำ เคาหยก ปลานิลน้ำไหล ปลากือเลาะหรือปลาพลวงสีชมพู นอกจากนี้ยังมีผลไม้ เช่น ส้มโชกุน ทุเรียน ลองกอง เป็นต้น
วันนี้คณะของเราก็ได้ชมและสัมผัสความสวยงามของเบตงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่า “สนุกสนาน สวยงาม สุดยอด” เริ่มจาก ท่าอากาศยานเบตง ที่ดีไซน์ด้วยไม้ไผ่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตามโวย City Tour ชมหอนาฬิกา จุดแลนด์มาร์คกลางใจเมือง ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างเก่าแก่อยู่คียงคู่กับเมืองเบตงมาช้านาน สร้างขึ้นมาจากหินอ่อนของจังหวัดยะลา และนกนางแอ่นกว่าพันๆ ตัวที่จะเกาะสายไฟบริเวณหอนาฬิกา อีกหนึ่งเสน่ห์ที่อยู่คู่หอนาฬิกา (ช่วงที่เยอะมากที่สุดจะเป็นช่วงเดือนกันยายนไปจนถึงมีนาคม เพราะนกนางแอ่นจะบินหนีหนาวมาจากไซบีเรีย) ได้ฟีลสัมผัสยามค่ำคืนของเบตงจะเห็นแสงไฟสวยๆ ส่องประกายมาจากหอนาฬิกาเบตงแบบงดงาม,
ตู้ไปรษณีย์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาใจกลางเมืองเบตง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 ตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง สูงประมาณ 320 ซม. ปัจจุบันได้มีการสร้างตู้ไปรษณีย์ขึ้นใหม่ใหญ่กว่าเดิมที่บริเวณศาลาประชาคม ถนนสุขยางค์ มีความสูงประมาณ 9 เมตร เป็นจุดเด่นที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก, อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ วิศวกรรมชั้นยอดหนึ่งในแดนสยามและเป็นอุโมงค์ลอดภูเขาแห่งแรกของประเทศไทย,
Street Art Betong ภาพเขียนส่วนใหญ่จะเป็นภาพที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิต ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชาวเบตง รวมไปถึงสัญลักษณ์ต่างๆ ที่มีอยู่จริงใน อ.เบตง เช่น ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งภาพถูกวาดทั้งหมด 11 จุด ทั้งบนผนัง กำแพง ใต้สะพาน และตัวอาคารหลายจุดรอบเมืองเบตง วาดโดยทีมนักศึกษาและอาจารย์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งนำทีมโดยอาจารย์อํามฤทธิ์ ชูสุวรรณ คณะบดีคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจและได้ถ่ายภาพเซลฟี่เป็นที่ระลึก
ตามด้วยการสักการะพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ณ วัดพุทธาธิวาส (วัดเบตง) เจดีย์ก่อสร้างแบบศรีวิชัยประยุกต์สีทองอร่าม สูง 39.9 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสพระชนมายุครบ 60 พรรษา จากเจดีย์สามารถมองเห็นทัศนียภาพของวัดและเมืองเบตงอีกมุมหนึ่งได้สวยงาม
ลิ้มรสอาหารอร่อยที่ร้านหวายร้อยลี้ อาทิ ไก่เบตงสับ ไก่เนื้อแน่นๆ เลี้ยงตามธรรมชาติ เนื้อนุ่มไม่แห้งกระด้างราดด้วยน้ำซีอิ๊ว, เคาหยก หมูสามชั้นชิ้นใหญ่ๆ กับเผือกเอาไปหมักกับเครื่องเทศของจีนแล้วเอาไปนึ่งรสชาติหอมหวานมี, ผักน้ำ ปลานิลน้ำไหล เลี้ยงบ่อธรรมชาติไม่คาวไม่มีกลิ่นดิน เนื้อนุ่มหวานร่วน เอามาทำแกงเหลือง ฯลฯ แวะจิบกาแฟ ชิลล์ ชิลล์ ร้าน Suvarna-rasa เป็นร้านกาแฟบรรยากาศสบายๆ ที่ออกแบบตกแต่งสไตล์โมเดิร์นสวยงาม
ปิดท้ายที่ อุโมงค์ปิยะมิตรเป็นอุโมงค์ดินที่อดีตขบวนการโจรคอมมิวนิสต์มลายา (จคม.) สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2519 ใช้กำลังคน 40 – 50 คนขุดเข้าไปในภูเขา และใช้เวลาเพียง 3 เดือนจึงแล้วเสร็จ อุโมงค์มีความกว้าง 50-60 ฟุต ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร สามารถจุคนได้เกือบ 200 คน มีทางเข้าออกทั้งหมด 9 ทาง เชื่อมต่อถึงกันหมด ปัจจุบันเหลือ 6 ทาง ภายในมีสถานีวิทยุของ จคม. ห้องนอน ห้องเก็บเสบียง มีซอกมีมุมให้เลี้ยวลัดเลาะ ด้านบนเป็นป่ามีต้นไม้ใหญ่มากมายปกคลุม ยากแก่การค้นหาและถูกค้นพบโดยทหารฝ่ายรัฐบาล ใช้เป็นฐานปฏิบัติการต่อสู้ทางการเมือง แต่ต่อมาได้กลับมาร่วมพัฒนาชาติไทย กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวที่สนใจเข้ามาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในอดีต บริเวณทางเข้ามีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ให้ได้ไหว้สักการะขอพร เดินมาอีกนิดจะเห็นซุ้มประตูพร้อมป้ายชื่อ เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมจีน และต้นไทรพันปี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี
นอกจากแหล่งท่องเที่ยวในเมืองเบตงแล้ว จังหวัดยะลายังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายหลายแห่งทั้งศาลหลักเมืองยะลา สะพานรถไฟ-สะพานดำ Yala Bird City Street Art น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 วัดหน้าถ้ำหรือวัดคูหาภิมุข และเขื่อนบางลาง ฯลฯ
นายธีรพล
โชติชนาภิบาล ประธานเจ้าหน้าที่สายการบินพาณิชย์ บริษัท สายการบินนกแอร์
จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ด้วยสายการบินนกแอร์ในครั้งนี้ โดยนำสื่อมวลชน ลงมาเพื่อประชาสัมพันธ์เส้นทางการบินดอนเมือง
– เบตง และแหล่งเที่ยวในพื้นที่ อ.เบตง พร้อมดูความพร้อมต่างๆ
ของเมืองเบตง มาชิมอาหารแสนอร่อย เพื่อจะได้นำไปประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยว
ส่วนค่าโดยสารเมื่อเปรียบเทียบระหว่างระยะทาง และเวลาที่ใช้ในการเดินทางไม่ถึง 2
ชั่วโมง ราคาของตั๋วโดยสาร 3,000
– 4,000 บาท ถือว่าคุ้มค่ากับการเดินทางมาอำเภอเบตง
เพราะก่อนหน้านี้จากเบตงไปกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชม. ต้องเดินทางจากเบตงไปถึงท่าอากาศยานหาดใหญ่
และยังเป็นการลดภาวะเสี่ยงโควิด-19 ในระหว่างการเดินทางอีกด้วย หากผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวอำเภอเบตง
5% จากตลาดการเดินทางทางบก ซึ่งปัจจุบันมีบริการรถไฟและรถบัสปรับอากาศรวมประมาณ 10
เที่ยวต่อวัน มาใช้บริการสายการบินก็ถือว่าโอเคแล้ว นกแอร์มีเครื่องพร้อมบิน
แต่ทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานราชการการ ภาคเอกชน สื่อมวลชน ต้องมาช่วยกันกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวของอำเภอเบตง
“นกแอร์ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ
ด้วยการการันตีรายได้ 75% ในช่วง 6 เดือนแรกที่ให้บริการเส้นทาง กรุงเทพฯ-เบตง
อยากให้ภาครัฐช่วยทำให้เราอุ่นใจ ช่วยชดเชยไม่ให้เราขาดทุนมากนัก”
หลังจากนี้ทาง
บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
สมาคมท่องเที่ยวต่างๆ และผู้ประกอกการท่องเที่ยว รวมทั้งสื่อมวลชน ที่จะร่วมกันหารือและวางแผนการประชาสัมพันธ์
เพื่อกำหนดตารางการบินในอนาคตต่อไป
ด้าน
นายนรินทร์ เรืองวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง
และที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเมืองเบตง กล่าวว่า จะมีการหารือร่วมกันระหว่างนกแอร์กับสมาคมด้านการท่องเที่ยวต่างๆ
อาทิ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(สทท.) สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ
(สทน.) และสมาคมโรงแรมไทย (THA) เพื่อร่วมกันทำตลาดเพิ่ม
ในการดึงดูดนักท่องเที่ยว สำหรับประเด็นที่จะหารือกัน มี 2
เรื่องหลัก ได้แก่
1.การการันตีจำนวนที่นั่งในแต่ละเที่ยวบินที่
75% โดยภาคเอกชนจะร่วมมือทำการตลาดอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีผู้โดยสารตามเป้าหมายขั้นต่ำของนกแอร์
2.เรื่องราคาตั๋วโดยสาร
เพื่อกำหนดราคาขายตั๋วบินที่เหมาะสมกับตลาด โดยทางนกแอร์ประเมินว่าราคาขายเส้นทาง
กรุงเทพฯ-เบตง ควรอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาทต่อเที่ยวบิน
แต่สมาคมฯประเมินว่าราคาที่ตลาดรับได้อยู่ที่ 2,500 บาทต่อเที่ยวบิน
เมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ อยู่ที่ประมาณ 1,500
บาทต่อเที่ยวบิน และต้องนั่งรถต่อมาที่ อ.เบตง อีกประมาณ 4-5 ชั่วโมง
“ภาคเอกชนท่องเที่ยวเบตงต่างคาดหวังว่านกแอร์จะกลับมาให้บริการเส้นทาง
กรุงเทพฯ-เบตง อีกครั้ง เริ่มวันที่ 1 เมษายน 2565 นี้เป็นต้นไป เพื่อสอดรับการเปิดด่านพรมแดนมาเลเซีย
ในวันที่ 1 เม.ย.นี้ รองรับการเดินทางจากนักท่องเที่ยวมาเลเซีย
นอกจากนี้ยังตรงกับวันเช็งเม้ง ที่ชาวเบตงจะเดินทางกลับบ้านเกิดมาไหว้บรรพบุรุษ
หลังจากมีการพูดคุยกับผู้ประกอบการทัวร์นำเที่ยวในตลาดมาเลเซียและสิงคโปร์
พบว่ามีดีมานด์ต้องการเข้ามาเที่ยวไทยสูงหากมีการเปิดด่านมาเลเซีย
หลังจากตลาดซบเซาเพราะสถานการณ์โควิด-19 โดยเมื่อปี 2562 ก่อนเจอวิกฤตินี้
มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์มาเที่ยว จ.ยะลา กว่า 6 แสนคนต่อปี”
ส่วน
นายพฤกษ์ วงศ์นามโรจน์ อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง
และประธานชมรมโรงแรมอำเภอเบตง กล่าวเสริมว่า ภาพรวมตลาดโรงแรมที่พักใน
อ.เบตง จ.ยะลา มีจำนวนโรงแรมประมาณ 30 แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องพักราว 2,000 ห้อง
นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 กระทบต่อราคาห้องพักปรับลดลงจากเคยขายประมาณ
1,000 บาทต้นๆ ต่อคืน เหลือเริ่มต้นเพียง 400 บาทต่อคืน
“หากนกแอร์สามารถกลับมาเปิดเส้นทางบินสู่เบตงได้
รวมถึงการเปิดด่านพรมแดนไทย-มาเลเซียในวันที่ 1 เม.ย.นี้
คาดว่าจะช่วยฟื้นราคาห้องพักให้กลับมาอยู่ในราคาปกติ หรือเพิ่มขึ้น 30-40%
จากราคาขายในปัจจุบัน”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น