รักษ์พงษ์" สร้าง"ชุมชนคลองพลับพลาโมเดล" ชุมชนท่องเที่ยวต้นแบบปลุกใจชาวชุมชน 2,000 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ลุกขึ้นสู้เพื่อตัวเอง
นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ
ประธานมูลนิธิรวมพัฒน์
และอดีตผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ได้เปิดตัว “ชุมชนคลองพลับพลาโมเดล"
ชุมชนท่องเที่ยวต้นแบบ ในโครงการพัฒนาชุมชนแออัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ
ซึ่งมีชุมชนรวมกว่า 2,000 แห่ง และประชากรกว่า 2
ล้านคน ทั่วกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565
นายรักษ์พงษ์ (พี่เปิ้น) เซ่งเจริญ กล่าวถึงความตั้งใจในการริเริ่มโครงการนี้ว่า
"ผมอยากให้ผู้คนได้รับรู้และให้ความสำคัญให้มากขึ้นถึงชุมชนที่อยู่คู่กรุงเทพฯ
มาอย่างช้านานกว่า 2,000 แห่ง
จนถึงปัจจุบันนี้มีผู้คนที่อาศัยและใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนดังกล่าวกว่า 2
ล้านคน โดยในอดีตชุมชนก็เปรียบเสมือนหมู่บ้านตามต่างจังหวัดในปัจจุบัน
แต่ภายหลังจากกรุงเทพฯ ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพสังคม เพื่อรองรับการพัฒนาที่เกิดขึ้นตามกระแสโลกาภิวัฒน์
หน่วยปกครองที่เรียกว่าหมู่บ้านในกรุงเทพฯ ก็ต้องถูกยกเลิกไป แล้วตั้งหน่วยปกครองใหม่ที่เรียกว่า
"ชุมชน"
ควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่จากท้องนาอันเป็นพื้นที่ทำมาหากินดั้งเดิมของคนในชุมชน
ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นกลุ่มตึกสูงระฟ้า
เพื่อรองรับการอยู่อาศัยและแสวงโอกาสของหมู่คนจากต่างชาติและต่างจังหวัด แล้วก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้คนที่ไม่รู้ความเป็นมา
จนมองว่า "ชุมชนคือชุมชนแออัด หรือสลัม" เสียด้วยซ้ำ หนักไปกว่านั้น
อาจเข้าใจผิดจนมองคนในชุมชนเป็น "ผู้รุกรานจากต่างถิ่น" ทั้งๆ
ที่ผู้คนใน ชุมชนคือผู้ที่อยู่อาศัยคู่กรุงเทพฯ มาตั้งแต่ดั้งเดิมอย่างแท้จริง
ดังนั้นพื้นที่ชุมชนจึงเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อันซึมซับเอาภูมิปัญญาและวิถีชีวิตของพื้นที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ ไว้มาอย่างช้านาน เหมาะสำหรับผู้คนที่อยากเรียนรู้ถึงที่มา เพื่อค้นหาถึงแนวทางการสืบสานสร้างมูลค่าต่อยอดให้กับสังคมไทยสืบไป จากรากเหง้าภูมิปัญญาดั้งเดิมอันนับเป็นของหายากและทรงคุณค่าในระดับโลก ตลอดจนมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นในทุกวัน
สำหรับ
“ขุมชนคลองพลับพลา” ที่ชุมชนท่องเที่ยวต้นแบบที่เราต้องการจะพัฒนาให้เป็นที่รู้จัก เพื่อสร้างให้เกิดเป็นแหฃ่งท่องเที่ยวนั้น
ตั้งอยู่ในเขตวังทองหลาง ในซอยรามคำแหง 21 แต่เดิมเป็นพื้นที่ท้องนา
ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ปลูกข้าว ปลูกผักสวนครัว
มีวีถีชีวิตที่เรียบง่าย พึ่งพาอาศัยกันเฉกเช่นชุมชนชนบททั่วไป
อุอมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา เป็นชุมชนที่น่าหลงใหล ชวนไปเยี่ยมเยียน
ทางมูลนิธิรวมพัฒน์ จึงเห็นว่า ชุมชนคลองพลับพลานี้ น่าจะเป็นชุมชนท่องเที่ยว
เพราะเป็นชุมชนท่ที่มีวิถีชีวิตที่น่าสนใจน่าเรียนรู้ ทั้งในเรื่องวิถีไก่ชน
การการจักสานจากผักตบชวา การจัดสวนสมุนไพรประจำชุมชน
การหาปลาเพื่อเป็นอาหารด้วยวิธียกยอ ซึ่งไม่คิดว่าจะพบได้กลางกรุงเทพฯ
อีกทั้งยังสามารถทดลองทำพลับพลา DIY การทำบ้านไม้สัตว์เลี้ยงด้วยตนเอง
ตลอดจนเมนูอาหารเลิศรสจาก Chef Table ให้ลิ้มลองอีกด้วย
ซึ่งจะเป็นช่องทางหนึ่งที่จะทำให้คนในชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น
สุดท้ายนี้
อยากฝากให้พี่น้องชาวชุมชนอีก 2,000 แห่ง
ได้ตระหนักถึงความผิดหวังและคำสัญญาที่เลื่อนลอย
อันเกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้
แล้วควรเลิกฝากความหวังไว้กับคนอื่นหรือแม้กระทั่งทีมของผมเองได้แล้ว ในเมื่อพลังที่แท้จริงอยู่ในมือ
2 ล้านเสียงของพวกท่าน
ซึ่งมากกว่าคะแนนเสียงของผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้เสียด้วยซ้ำ
แม้หากพวกท่านยังไม่พร้อมจะส่งผู้แทนหรือหาผู้นำเพื่อลงแข่งขันเป็นผู้ว่าฯ เอง
ท่านก็ยังสามารถเรียกผู้สมัครที่ตอนนี้อยากเป็นผู้ว่าฯ มาต่อรองเสียตั้งแต่วันนี้
เพื่อให้เค้ารับปากแล้วให้คำมั่นสัญญาต่อหน้าสื่อมวลชนตามความต้องการของท่านก่อนที่เค้าจะเป็นใหญ่เป็นโต
แล้วลืมท่านอีกในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น