ชาวบ้านยื่นหนังสือถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มูลนิธิภูบดินทร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน กรณีอุทยานแห่งชาติเขาแหลมประกาศแนวเขตทับที่นิคมสหกรณ์สังขละบุรีและทองผาภูมิ
จากกรณีอุทยานแห่งชาติเขาแหลมประกาศแนวเขตทับที่นิคมสหกรณ์สังขละบุรีและทองผาภูมิกว่า
2แสน
ไร่ มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 4,700
ราย และได้มีการต่อสู้รียกร้องขอความเป็นธรรมตั้งแต่ปี
พ.ศ. 2534 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านได้
ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านชาวอำเภอทองผาภูมิและสังขละบุรี
จำนวน 50 คน ที่ได้รับผลกระทบในกรณีอุทยานแห่งชาติเขาแหลมประกาศแนวเขตทับที่นิคมสหกรณ์สังขละบุรีและทองผาภูมิ
จึงได้เดินทางมายื่นหนังสือถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
มูลนิธิภูบดินทร์ในพระบรมราชูปถัมภ์
เพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่อยู่ในอำเภอทองผาภูมิและสังขละบุรีที่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมบังคับใช้กฎหมายและจับกุมชาวบ้านเป็นเวลาช้านานกว่า
30 ปี ณ สำนักพระราชวังศาลาลูกขุน (วัดพระแก้ว) เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564
โดยมีใจความในหนังสือถวายฎีกาว่า ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้า นายสุวรรณ บัวโรย ในนามตัวแทนกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบกรณีอุทยานแห่งชาติเขาแหลมประกาศทับที่ทำกิน
ของพี่น้องประชาชนชาวอำเภอทองผาภูมิ และสังขละบุรี ในจังหวัดกาญจนบุรี
ข้าพระพุทธเจ้าขอทูลเกล้าถวายฎีกาถึง
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และ
สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี องค์ประธานที่ปรึกษา
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี
กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา องค์ประธานกรรมการ มูลนิธิภูบดินทร์
ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนชาวอำเภอทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี
ในจังหวัดกาญจนบุรี
ที่ได้รับความเดือดร้อยจากกรณีอุทยานแห่งชาติเขาแหลมประกาศแนวเขตอุทยานทับพื้นที่นิคมสหกรณ์อำเภอทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี
จังหวัดกาญจนบุรี กว่า 2 แสนไร่
เนื่องด้วยกลุ่มประชาชนชาวอำเภอทองผาภูมิ
อำเภอสังขละบุรี ที่อาศัยอยู่ภายใต้
พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสหกรณ์ในท้องที่อำเภอทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี พ.ศ. 2518 ได้รับความเดือดร้อนตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2534
หลังจากอุทยานแห่งชาติเขาแหลมประกาศแนวเขตอุทยานทับพื้นที่
พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสหกรณ์ในท้องที่ อำเภอทองผาภูมิและสังขละบุรี พ.ศ. 2518
กว่า 2 แสนไร่ ส่งผลให้ประชานกว่า 4,700 ราย ได้รับผลกระทบ
บางส่วนถูกเจ้าหน้าที่อุทยานเขาแหลมบังคับใช้กฎหมายอุทยานจับกุมชาวบ้านในข้อหาบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ
กลุ่มประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนได้ยื่นหนังสือร้องขอหน่อยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนมาโดยตลอดกว่า
30 ปี
แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหากรณีพื้นที่พิพาทนี้ได้
ทั้งยังทราบข่าวมาว่านิคมสหกรณ์สังขละบุรีและทองผาภูมิ
จะประกาศสิ้นสภาพในเร็วๆนี้ หากเป็นเช่นนั้น ชาวบ้านอาจถูกจับกุมมากขึ้น เพราะพื้นที่
ที่ชาวบ้านเคยอยู่จะตกเป็นของอุทยานทั้งหมด โดยที่ชาวบ้านไม่มีกฎหมายอื่นคุ้มครอง
อันจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างมากขึ้น ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม
และด้านการพัฒนาของประเทศ ทำให้ชาวบ้านจะต้องมีคดีติดตัว ในฐานบุกรุกอุทยานฯ
ทั้งที่ความจริงแล้ว อุทยานแห่งชาติเขาแหลมเป็นผู้มาประกาศทับ
แนวเขตของพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสหกรณ์ในท้องที่อำเภอทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี
พ.ศ. 2518
นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับพี่น้องชาวอำเภอทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี และเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่งที่หาที่สุดมิได้ ที่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี องค์ประธานที่ปรึกษา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา องค์ประธานกรรมการ มูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทรงเปิดมูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือประชาชนตามวัถุประสงค์ของมูลนิธิฯ กลุ่มประชาชนชาวสังขละบุรี และทองผาภูมิ มีความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่งหาที่สุดมิได้ ที่พระองค์ทรงทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกรชาวไทย และได้ทรงจัดตั้ง มูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่ที่ทำกิน ของพสกนิกรชาวไทยท่วประเทศ ที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องที่ดินที่ทำกิน ข้าพระพุทธเจ้าและประชาชนกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบกรณีอุทยานแห่งชาติเขาแหลมประกาศทับที่ทำกิน ขอโปรดกล้าโปรดกระหม่อม พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี องค์ประธานที่ปรึกษา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา องค์ประธานกรรมการ มูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทรงได้โปรดพระการุณาประทานให้ นิคมสหกรณ์ทองผาภูมิและสังขละบุรีได้ทำหน้าที่ในการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินให้แก่ชาวบ้าน ตามกฎหมายของพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสหกรณ์ในท้องที่อำเภอทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี พ.ศ. 2518 ให้แล้วเสร็จตามหน้าที่ เพื่อความสงบสุขจะได้เกิดขึ้นในพื้นที่ทั้ง 2 อำเภอที่มีปัญหายาวนานมากว่า 30 ปี เพื่อความเป็นอยู่ที่ มั่นคง มั่งคั่ง และยั้งยืนของประชาชนและประเทศชาติสืบต่อไป ขอพระองค์ท่านทรงโปรดให้อุทยานแห่งชาติเขาแหลมยกเลิกเพิกถอนการประกาศแนวเขตทับที่ดินของพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสหกรณ์ในท้องที่อำเภอทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี พ.ศ. 2518 และขอพระองค์ท่านทรงโปรดประทานอภัยโทษให้กับประชาชนที่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมบังคับใช้กฎหมายจับกุมในเขตพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว ให้พ้นความผิด เพื่อประชาชนกลุ่มนั้นจะได้มาดูและครอบครัว และทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและแผ่นดินสืบต่อไป
ในการยื่นถวายฎีกาในครั้งนี้ ข้าพระเจ้าได้รวบรวมฎีกาความเดือดร้อนของชาวบ้านหลายคนแนบมาด้วย
พร้อมรายละเอียดเรื่องราวที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นหลักฐานในการประกอบการวินิฉัยของพระองค์มาด้วยจำนวน
1 ชุด
ข้าพระพุทธเจ้า
นายสุวรรณ บัวโรย เลขาธิการ
กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบกรณีอุทยานแห่งชาติเขาแหลมประกาศทับที่ทำกิน
ขอพระองค์ฯทรงพระเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน ด้วยกล้าด้วยกระหม่อม
ขอเดชะ
หลังจากยื่นหนังสือถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มูลนิธิภูบดินทร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ แล้ว ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านชาวอำเภอทองผาภูมิและสังขละบุรี ก็ได้เดินทางไปที่ศาลปกครองสูงสุด เพื่อร้องศาลปกครองให้สั่งให้นิคมสหกรณ์ออกมาทำงานตามหน้าที่ เพื่อออกเอกสารสิทธิ์ให้แก่ชาวบ้านตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสหกรณ์ทองผาภูมิและสังขละบุรี พ.ศ. 2518 และฟ้องร้องให้กับอุทยานแห่งชาติเขาแหลมได้ยกเลิกเพิกถอนกฤษฎีกาที่มีการประทับนิคมสหกรณ์สังขละบุรีและทองผาภูมิ และให้หยุดระงับการกระทำจับกุมชาวบ้านในพื้นที่กรณีพิพาทระหว่างหน่วยงาน จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในนามมูลนิธิภูบดินทร์มาแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น