"กรมบังคับคดี" แจงกรณีสาวใหญ่หอบเอกสาร แฉโครงการหมู่บ้านหรู
ตามที่มีข่าว สาวใหญ่ซึ่งอาศัยอยู่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านคลอง 10 (ธัญบุรี) อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ได้ร้องเรียนสื่อมวลชน กล่าวถึงบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของโครงการหมู่บ้านถูกพิพากษาให้ล้มละลายเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 ทำให้ประชาชนที่เช่าซื้อได้รับความเดือดร้อนทั้งเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ประชาชนผู้เช่าซื้อ รวมไปถึงระบบสาธารณูปโภคและสาธารณประโยชน์ของโครงการหมู่บ้านที่ปล่อยทิ้งไว้เกือบ 30 ปี ไม่สามารถยกเป็นที่สาธารณะให้แก่หน่วยงานในท้องถิ่นได้เข้ามาดูแลปรับปรุง
ซึ่งสาวใหญ่คนดังกล่าวเป็นหนึ่งในครอบครัวที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว จึงได้ออกมาทวงถามจากหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ปล่อยปละละเลยให้โครงการหมู่บ้านนำที่ดินที่ถูกยึดแล้วมาให้ประชาชนเช่าซื้อรวมถึงนำบุคคลภายนอกมาเช่าอาศัยได้อย่างไรทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวถูกยึดทรัพย์และตกเป็นของกรมบังคับคดีแล้ว นั้น
นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยว่า กรณีตามที่เป็นข่าวนั้น เป็นกรณีที่เกี่ยวข้อง บริษัท ส.จารุจิตร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ที่เป็นเจ้าของที่ดินและเป็นผู้จัดสรรที่ดินในโครงการจัดสรรหมู่บ้านตามที่เป็นข่าวมาตั้งแต่ปี 2540 และบริษัท ส.จารุจิตรฯ ได้ทำสัญญาซื้อขายบ้านในโครงการให้กับบุคคลทั่วไปมาโดยตลอด ซึ่งรวมถึงการสัญญากับสาวใหญ่ในปี 2547 ตามที่เป็นข่าวด้วย แต่ภายหลังจากนั้นในปี 2556 ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดบริษัท ส.จารุจิตรฯ ในคดีล้มละลายหมายเลขแดงที่ 1089/2556 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ประกาศโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบเพื่อให้บรรดาเจ้าหนี้ของบริษัท ส.จารุจิตรฯ มาขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ทำให้คู่สัญญาจำนวนมากที่ทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้านในโครงการดังกล่าวไว้แล้ว แต่ไม่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ได้มายื่นขอรับชำระหนี้กับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไว้แล้ว และในกรณีตามที่เป็นข่าวนั้น เป็นกรณีที่บริษัท ส.จารุจิตรฯ ได้ทำสัญญากับสาวใหญ่ไว้ก่อนที่จะล้มละลาย สัญญาดังกล่าวจึงสามารถกระทำได้และผูกพันคู่สัญญา แต่เมื่อบริษัท ส.จารุจิตรฯ ล้มละลายแล้ว สาวใหญ่ซึ่งเป็นคู่สัญญาจะต้องมายื่นขอรับชำระหนี้กับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต่อไป
สำหรับการดูแลสาธารณูปโภคและสาธารณประโยชน์ของโครงการหมู่บ้านที่อยู่ในอำนาจและหน้าที่ของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรที่จะเป็นผู้จัดการดูแลนั้น อธิบดีกรมบังคับคดีได้มีคำสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ลงพื้นที่หาข้อเท็จจริงเพื่อช่วยเหลือลูกบ้านในประเด็นดังกล่าวแล้ว
กรมบังคับคดี 0 2881 4999หรือสายด่วนกรมบังคับคดี 1111 กด 79 เว็บไซต์กรมบังคับคดี www.led.go.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น