ชาวบ้านประมงเรือขนาดเล็กเฮ หลังกรมประมงสั่งยกเลิกการเพิ่มพื้นที่การเพาะเลี้ยหอยแมลงภู่ในพื้นที่อ่าวบางตะบูน
หลังจากเมื่อวันที่ 11
พฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมา นายชัยยศ สงวนทรัพย์ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลบางตะบูน
ได้รับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้านผู้ประกอบอาชีพเรือประมงขนาดเล็กในบริเวณอ่าวบางตะบูนแล้ว
ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อสำนักงานประมงจังหวัดสำนักงานประมงอำเภอบ้านแหลม
จังหวัดเพชรบุรี และอีกหายหน่วยงานของภาครัฐในท้องถิ่นและส่วนกลาง
มาวันนี้ วันที่18 พฤศจิกายน 2554
ทางหน่วยงานของภาครัฐทั้งกรมประมง ประมงจังหวัดเพชรบุรี นายอำเภอบ้านแหลม
ประมงอำเภอบ้านแหลม กรมเจ้าท่า ศรชล กรมน. สถานีตำรวจภูธรบ้านแหลม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดประชุมหารือร่วมกันในนโยบายการเพิ่มพื้นที่ให้ทำการเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ในพื้นที่ดังกล่าว
โดยมีนายประพันธ์ ลีปายะคุณ ผู้ตรวจราชการกรมประมงเป็นประธานในที่ประชุม และมี นายชัยยศ
สงวนทรัพย์ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลบางตะบูน และชาวบ้านอ่าวบางไทร อ่าวบ้านแหลม และอ่าวบางตะบูน จำนวนกว่า 200 คน เข้าร่วมประชุมด้วย ณ
ศาลาประชาคม อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี
และจากผลการประชุมร่วมกันจนได้ขอยุติว่า
“ทางกรมประมงจะสั่งยกเลิกการเพิ่มพื้นที่การเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ในพื้นที่อ่าวบางตะบูน
อ่าวบางไทร และอ่าวบ้านแหลม ส่วนที่ทำการเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่อยู่ก่อนแล้วก็สามารถทำต่อไปได้
เมื่อชาวบ้านประมงเรือขนาดเล็กได้ฟังว่าไม่มีการเพิ่มพื้นที่การเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่
ก็ยิ้มร่าและต่างแสดงความดีอกดีใจ
นายประพันธ์ ลีปายะคุณ
ผู้ตรวจราชการกรมประมง กล่าวว่า การที่สำนักงานประมงจังหวัดเพชรบุรีได้มีประกาศสำนักงานประมงจังหวัดเพชรบุรี
เรื่องกำหนดห้วงเวลาให้ผู้ประสงค์จะทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณประโยชน์ของแผ่นดินประเภทการเพาะเลี้ยงหอยทะเล
มายื่นคำขอใบอนุญาต พ.ศ. 2564 ทางกรมประมงได้ทำถูกต้องทุกขั้นตอน
แต่เมื่อมีผู้มายื่นหนังสือคัดค้าน ทางกรมประมงและนายอำเภอในฐานะที่มีอำนาจพิจารณาอนุญาตก็ได้หารือกันแล้วว่า
การพิจารณาคำขออนุญาตเพาะเลี้ยงหอยทะเล สมควรที่จะพิจารณาหรือไม่
ซึ่งหลังจากที่เราได้ดูกฏกระทรวงว่าด้วยของการพิจารณาอนุญาตแล้ว
ก็ปรากฏว่ามีเงื่อนไขข้อหนึ่ง
ที่การพิจารณาอนุญาตจะต้องคำนึงถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
เพราะฉะนั้นในเมื่อมีพี่น้องชาวประมงได้ทำมาหากินในบริเวณดังกล่าว
ถ้าพิจารณาไปแล้วจะก่อให้เกิดปัญหาข้อพิพาทกัน
ทำให้เกิดปัญหาความเดือดร้อนกับชาวประมง ทางนายอำเภอก็จะพิจารณาไม่อนุญาต
ซึ่งเรื่องนี้ทางประมงอำเภอในฐานะที่รับเรื่องก็ได้ตรวจสอบคำขอ และได้ตรวจสอบแปลงเพาะเลี้ยงหอยแล้ว
ทราบข้อเท็จจริงว่ามีพี่น้องชาวประมงเดือดร้อน
ก็จะทำความเห็นเสนอนายอำเภอพิจารณาไม่อนุญาต
แล้วก็จะแจ้งหนังสือเป็นทางการไปยังผู้ยื่นคำขอโดยระบุถึงเหตุผลที่ไม่พิจารณาอนุญาต
รวมถึงแจ้งสิทธิในการอุทธรณ์แก่ผู้ยื่นคำขอให้ทราบ
ด้าน นายชัยยศ สงวนทรัพย์ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลบางตะบูน กล่าว่า ตนเองก็มีความห่วงใยในพื้นที่ ผมก็เป็นคนที่เกิดในบางตะบูน ผมก็ทราบถึงข้อมูลปัญหาวิถีชีวิตของพวกเรามาตลอด และในพื้นที่ 28,000 ไร่ เป็นพื้นที่ที่มีการเลี้ยงหอยไปแล้ว 18,000 ไร่ ฉะนั้นเหลืออีก 10,000 ไร่ 3 อ่าว คือ อ่าวบางไทร อ่าวบ้านแหลม และอ่าวบางตะบูน ซึ่งถ้าทมีการอนุญาตการเพาะเลี้ยงหอยอีก ผมคิดว่าพื้นที่ที่ชาวประมงจะออกไปลอยอวน กุ้ง ปู ปลา มันก็จะหมดไปในส่วนนี้ ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวประมงในการเลี้ยงดูครอบครัว ผมคิดว่าทางส่วนราชการได้ช่วยอนุเคราะห์ในส่วนของการระงับการอนุญาตในการเปิดพื้นที่เลี้ยงหอยแมลงภู่ ในส่วนที่จะขยายใหม่ แต่ในส่วนของพื้นที่คนที่เลี้ยงหอยเดิมก็ไม่ได้ไปยุ่งวุ่นวายอะไร ในส่วนนั้นก็ดำเนินการกันต่อไป แต่ในส่วนตรงนี้เราก็อยากจะขอไว้ให้กับชาวบ้านเรื่องประมงขนาดเล็ก ซึ่งค่อนข้างหาเช้ากินค่ำ ฉะนั้นถ้าพื้นที่ตรงนี้หมดไป หนทางหากินเขาก็จะไม่มีเลย ก็จะสร้างความลำบาก และมันจะเป็นปัญหาให้กับท้องถิ่นในเรื่องของปัญหาทำกินไม่ได้ ก่อให้เกิดปัญหาลักเล็กขโมยน้อย ในส่วนนี้เราไม่ควรสร้างปัญหากัน ผมคิดว่าหน่วยงานภาครัฐโดยท่านประพันธ์ ลีปายะคุณ ผู้ตรวจราชการกรมประมง ท่านนายอำเภอบ้าแหลม ประมงจังหวัดเพชรบุรี และหัวหน้าส่วนต่างๆ ก็ได้กรุณาว่า “ตกลงวันนี้ ก็สรุปว่า กรมประมงก็ระงับการอนุญาตในพื้นที่เพาะเลี้ยงหอยที่จะเกิดขึ้นใหม่” ก็ถือว่าเป็นความต้องการของชาวบ้าน และเป็นการสำเร็จที่ดี ชาวบ้านทุกคนก็กลับไปอย่างมีความสุข เขาก็ยังคิดถึงว่า ในส่วนตรงนี้ หน่วยงานราชการยังเมตตา ในการเปิดพื้นที่ทำกินให้เขา
สุดท้ายนี้ นายชัยยศ สงวนทรัพย์
นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลบางตะบูน กล่าวว่า ในนามของเทศบาลตำบลบางตะบูน และชาวอำเภอบ้านแหลม
ก็ต้องขอขอบพระคุณ ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์
ผู้ช่วยรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา) ที่ได้รับเรื่องร้องเรียนและสั่งการและพล.ต.อ.ศรีวราห์
รังสิพราหมณกุล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่ท่านได้ช่วยอนุเคราะห์ความเดือดร้อนของชาวบ้าน
ก็ขอขอบคุณท่านทั้งสองมา ณ โอกาสนี้ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น