วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2567

เชิญชม เทศกาลชมสวน 2567 (Flora Festival 2024) ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่

เชิญชม เทศกาลชมสวน 2567 (Flora Festival 2024) 

ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่

ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568

      อุทยานหลวงราชพฤกษ์ มีจุดกำเนิดมาจากพื้นที่ที่เคยจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ในปี พ.ศ. 2549 ปัจจุบันเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส.

      ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรที่ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานนามให้กับสถานที่แห่งนี้ว่า “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2553 เพื่อเป็นสวนของพ่อที่นับเป็นอุทยานแห่งการเรียนรู้ขนาดใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่ดำเนินงานกว่า 468 ไร่ โดยมีพันธกิจเป็นแหล่งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับโครงการตามแนวพระราชดำริ โครงการหลวงและการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน แหล่งเรียนรู้ด้านความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อม ด้านศิลปวัฒนธรรม ประเพณี รวมทั้งให้บริการพื้นที่เพื่อส่งเสริมสุขภาพ ความสัมพันธ์ในครอบครัว และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่

       สำหรับ เทศกาลชมสวน (Flora Festival) เป็นเทศกาลประจำปีของอุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ ที่เนรมิตสวนสวยด้วยไม้ดอกเมืองหนาวนานาพรรณจากฝีมือการปลูกของเกษตรกรบนพื้นที่สูง สำหรับปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “สีสันพรรณไม้และการเข้าสู่สังคมไร้มลพิษเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 08.00 – 18.00 น. โดยมีวัตถุประสงค์การจัดงานเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 อีกทั้ง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ยังได้รับรางวัลมาตรฐานต่างๆ หลายรางวัล อาทิ

1. รางวัล Hall of Fame  (รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยประเภทแหล่งท่องเที่ยว สาขาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้)

2. รางวัลดีเด่น Thailand Tourism Silver Awards ประเภทการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืน

3. สวพส. ขึ้นทะเบียนเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization: CFO)

4. โล่ประกาศเกียรติคุณองค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก ประจำปี 2567 (Climate Action Leading Organization: CALO)

5. ได้รับรองมาตรฐานสวนพฤกษศาสตร์ระดับสากล BGCI Botanic Garden Accreditation จาก Botanical Gardens Conservation International: BGCI ซึ่งเป็นเครือข่ายการอนุรักษ์พันธุ์พืชที่ใหญ่ที่สุดในโลก

6. ผ่านการรับรองมาตรฐานจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในโครงการ STAR : Sustainable Tourism Acceleration Rating ที่ผ่านการรับรอง 16 เป้าหมาย (จากทั้งหมด17 เป้าหมาย)

7. โรงแรมราชพฤกษ์เพลซ (Rajapruek Place) ได้รับรางวัล “Green Hotel 2567” ระดับดีเยี่ยม (เหรียญทอง) 

8. รางวัลตราสัญลักษณ์ G-Green ระดับประเทศ ระดับดีเยี่ยม G ทอง สำนักงานสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Office) ปี 2566

       ด้วยแนวคิดของการจัดงานชมสวนที่จะแสดงผลงานและผลสำเร็จให้นักท่องเที่ยวได้ชมในปีนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนผ่านองค์ความรู้ด้านโครงการตามแนวพระราชดำริ โครงการหลวง และการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน ความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อมที่ได้ต่อยอดและรวบรวมความหลากหลายทางชีวภาพทั้งทรัพยากรพรรณไม้นานาชนิดมากถึง 23,831 รายการที่ได้รับรองมาตรฐานสวนพฤกษศาสตร์ระดับสากล BGCI Botanic Garden Accreditation จาก Botanical Gardens Conservation International: BGCI ซึ่งเป็นเครือข่ายการอนุรักษ์พันธุ์พืชที่ใหญ่ที่สุดในโลก

      สำหรับไฮไลท์ภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้ชมความสวยงามของไม้ดอกเมืองหนาวนานาพรรณนับล้านดอกที่พร้อมใจกันเบ่งบานงดงามเต็มสวน อาทิ เจอราเนียม ฟอร์เก็ตมีน็อต บีโกเนีย พิทูเนีย ซัลเวีย แพนซี คัสตี้มิลเลอร์ เดซี่ เทียนนิวกีนี ฯลฯ

       พบกับจุดไฮไลท์ใหม่ที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ ชมวิวสวยๆ ฟินๆ แบบ 360 องศาบน Skywalk กับความสวยงามที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงฤดูแถมได้ความรู้เกี่ยวกับพรรณไม้ตลอดเส้นทางเดิน นักท่องเที่ยวสามารถเดินตั้งแต่ 'เรือนร่มไม้' ที่เต็มไปด้วยพรรณไม้หายากกว่า 400 สายพันธุ์ เชื่อมต่อทางเดินไปยังจุดชมวิวมุมสูง หรือจะนั่งพักผ่อนใจไปกับต้นไม้และวิวภูเขาสีเขียวขจี เซลฟี่มุมสูงกับแปลงรวบรวมสายพันธุ์กุหลาบและยังมีทางเดินเส้นทางใหม่ที่ทอดยาวลงมาจนถึงโดมกุหลาบที่รวบรวมสายพันธุ์กุหลาบถึง 220 สายพันธุ์ เมื่อสุดเส้นทางก็ยังสามารถเดินชมป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง และทุ่งดอกไม้ที่สวนพรมบุปผา อีกทั้งยังมีสวนสมุนไพรที่จัดแสดงสมุนไพรท้องถิ่นและสมุนไพรจากต่างประเทศ

        ชมความหลากหลายของกล้วยไม้ทั้งพันธุ์แท้และพันธุ์ลูกผสมกว่า 50 สายพันธุ์กว่า 10,000 ต้นในบรรยากาศที่ร่มรื่นเย็นสบายในเรือนกล้วยไม้ เปิดประสบการณ์มหัศจรรย์ไปกับ "ถ้ำกล้วยไม้" ที่เต็มไปด้วยภาพวาดจิตรกรรม"กล้วยไม้ไทย" อาทิ กล้วยไม้สายพันธุ์ต่างๆ ทั้งสายพันธุ์เอื้อง เอื้องสาย เอื้องสามปอย แวนด้าฟ้ามุ่ย ฯลฯ ที่มีความแปลกตาไม่เหมือนใคร ทั้งการวาดแบบภาพ 3 มิติเสมือนจริง และยังมีห้องที่จำลองเป็นถ้ำเรืองแสงที่ให้ชมบรรยากาศยามค่ำคืนของธรรมชาติ เสมือนว่าเราอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์ยามค่ำคืน ก็จะมีแสงจากสิ่งมีชีวิตบินรอบๆ ตัวเรา เช่น ผีเสื้อกลางคืน หิ่งห้อย ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ และอีกจุดไฮไลท์ ตระการตากับหอคำหลวง สถาปัตยกรรมแบบล้านนาที่ทรงคุณค่าและสง่างามที่สุดมีการจัดแสดงภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบล้านนาบอกเล่าเรื่องราวของในหลวงรัชกาลที่ 9 และชมความงดงามของศิลปวัฒนธรรมที่สวนนานาชาติประเทศภูฎาณ อีกหนึ่งสวนนานาชาติที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในอุทยานหลวงราชพฤกษ์ และตื่นตากับโฉมใหม่ของอาคารโลกแมลงที่ให้ทุกท่านได้ค้นหาความมหัศจรรย์และศึกษาพฤติกรรมแปลกๆ ของแมลงหลากหลายชนิดทั้งในรูปแบบนิทรรศการและในรูปแบบสื่อมัลติมีเดีย โดยได้มีการรวบรวมตัวอย่างแมลงหายากและแฝงด้วยความรู้ทางด้านกีฏวิทยา อาทิ แหล่งกำเนิดของแมลง วงจรชีวิต ฯลฯ อีกทั้งยังจะได้ใกล้ชิดและสัมผัสความน่ารักของแมลงมีชีวิตท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติอีกด้วย

       นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษภายในงานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น งานมหกรรมกาแฟอราบิก้าบนพื้นที่สูง (Highland Arabica Coffee Exposition), สัปดาห์สมุนไพร (เดือนกุมภาพันธ์) กิจกรรมสัมมนาและเสวนาในหัวข้อ พืชสมุนไพร ลดโรค ลดโลก(ร้อน)" การเรียนรู้สมุนไพร 9 รสยา และยังได้ช้อปพรรณไม้ สินค้าที่ระลึก สินค้าชุมชน กาแฟบนพื้นที่สูง

       รวมทั้งนิทรรศการและการเรียนรู้เกี่ยวกับการกักเก็บคาร์บอนของสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (สวพส.) ด้วยการนำเสนอกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดการคาร์บอน ซึ่งครอบคลุม 3 แนวทางหลัก ได้แก่ การดูดกลับ (Carbon Sequestration), การลด (Carbon Reduction) และ การชดเชย (Carbon Offset) ไม่ว่าจะเป็น การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุล การสร้างเศรษฐกิจชุมชนที่โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในพื้นที่ชุมชนบนพื้นที่สูง การส่งเสริมเกษตรกรรมแบบยั่งยืน รวมทั้งแนวทางการบริหารจัดการอุทยานหลวงราชพฤกษ์ให้เป็นพื้นที่ต้นแบบการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์อย่างยั่งยืนในปี 2570

       อีกทั้งยังมีองค์ความรู้เกี่ยวกับการเรียนรู้พลังงานสะอาด การคัดแยกขยะ พร้อมสนุกกับกิจกรรม Walk Rally ตามหา RC เพื่อสร้างความสนุกสนานยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับพรรณไม้และบทบาทสำคัญของต้นไม้ในการลดคาร์บอนและดูดซับก๊าซเรือนกระจก โดยใช้รูปแบบการสแกน QR Code ของต้นไม้นั้นๆ บริเวณนิทรรศการ และสามารถเดินตามหาจุดที่อยู่ของต้นไม้นั้นๆ ภายในสวน ซึ่งจะมีข้อมูลเกี่ยวกับบทบาทของต้นไม้ในการลดคาร์บอนเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

      พบกับพันธุ์ไม้เมืองหนาว ที่ยกขบวนมาให้เลือกซื้อ อาทิ ลิซิแอนทัสหรือกุหลาบเวียดนาม กล็อกซีเนีย บิโกเนีย เยอบีร่า ฯลฯ ที่มีจำหน่ายเฉพาะในช่วงงานเท่านั้น

       สำหรับใครที่กำลังมองหาห้องพักท่ามกลางธรรมชาติ ต้องเลือกมาที่ “ราชพฤกษ์เพลซ (Rajapruek Place)”  สถานที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม สะอาด ปลอดภัย เป็นที่พักที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) ในระดับดีเยี่ยม (Gold Class)

        มาร่วมรับลมหนาวและชื่นชมความงามของไม้ดอกเมืองหนาวนานาพรรณจากเกษตรกรบนพื้นที่สูงพร้อมสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติในเทศกาลชมสวน (Flora Festival) ภายใต้แนวคิด “สีสันพรรณไม้และการเข้าสู่สังคมไร้มลพิษเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน”ตั้งแต่วันนี้- 28 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 08.00-18.00 น. ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ สอบถามเพิ่มเติมที่ 053-114110 ถึง 2 หรือทางแฟนเพจ : อุทยานหลวงราชพฤกษ์ : Royal Park Rajapruek  


วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ททท. ผนึกกำลังพันธมิตรจัดงานเทศกาล Amazing Thailand Countdown 2025 ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

ททท. ผนึกกำลังพันธมิตรจัดงานเทศกาล Amazing Thailand Countdown 2025

ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ส่งมอบความสุข ฉลองรับศักราชใหม่ 2568

        นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการแถลงข่าวจัดงาน "เทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 (Amazing Thailand Countdown 2025)" พร้อมด้วย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และพลตำรวจโทศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชากาการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมแถลงข่าว ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน จำนวนมาก ณ ห้องโถงธนะรัชต์ ชั้น 1 อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567

        ททท. ผนึกกำลังพันธมิตรจัดงานเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ส่งมอบความสุข ฉลองรับศักราชใหม่ 2568 ประเทศไทย พร้อมสร้าง Grand Morment สุดประทับใจ ก้าวสู่ปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025

         กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐ และเอกชน ผนึกกำลังจัดงานเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับศักราชใหม่ 2568 ผลักดันประเทศไทยสู่ Global Countdown Destination ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก พร้อมเปิดปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 อย่างน่าประทับใจ ด้วยกิจกรรมและอีเวนต์คับคั่ง ส่งมอบความสุข สนุกสนาน ความงดงามของประเพณีไทยในช่วงเริ่มต้นศักราชใหม่ คาดทั่วประเทศสร้างรายได้การท่องเที่ยว 62,000 ล้านบาท

         นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เป็นวาระแห่งการเริ่มต้นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง และความหวัง โดยในปีนี้สถานที่จัดงาน Countdown ทั่วประเทศไทยได้เตรียมไว้ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกและสัมผัสความงดงาม ทั้งในเมืองใหญ่และจังหวัดที่มีอัดลักษณ์พิเศษ ทั้งในกรุงเทพฯ และทั่วทุกภาคของประเทศ ซึ่งถือเป็นเทศกาลสำคัญภายใต้ Thailand Winter Festivals 2024 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามุ่งผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางที่โดดเด่นในระดับโลก เป็น Global Countdown Destination ที่นักท่องเที่ยวต้องนึกถึงและมาเยือนอย่างต่อเนื่องทุกปี ด้วยสุดยอดอีเวนต์ พร้อมนำเสนอจุดเด่นของประเทศด้านขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาสัมผัสคุณค่าและความหมายของการท่องเที่ยวในประเทศไทย และเกิดเป็นความประทับใจ จนไม่อาจลืมเลือน และยังเป็นโอกาสอันดีในการกระตุ้นการท่องเที่ยวโค้งสุดท้ายของปี เพื่อก้าวเข้าสู่ปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025  ที่ทุกกระทรวงจะมาร่วมมือกันส่งเสริมการท่องเที่ยวและมอบสิทธิประโยชน์พิเศษแก่นักท่องเที่ยว ให้การท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ เป็นกลจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

         นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท. พร้อมส่งมอบความสุขและความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยการจัดงาน "Amazing Thailand Countdown 2025" ในวันที่ 28 ธันวาคม 2567 - 1 มกราคม 2568 ณ บริเวณสวนนาคราภิรมย์ กรุงเทพมหานคร โดยมีพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร สถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าของประเทศไทยเป็น Landmark และตอกย้ำภาพลักษณ์ความสวยงามยามค่ำคืนบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร ด้วยไฮไลต์ร่วมเฉลิมฉลองนับถอยหลังก้าวเข้าสู่ปีใหม่ไปพร้อมกับการแสดงพลุที่สวยงามอลังการตระการตา การแสดงโดรนแปรอักษร พร้อมสื่อผสมสุดยิ่งใหญ่อลังการอย่างต่อเนื่องกว่า 7 นาที

        รวมถึงในพื้นที่เชียงใหม่ ยังได้จัดงาน Amazing Chiang Mai Countdown 2025 ในวันที่ 21 ธันวาคม 2567 - 1 มกราคม 2568 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโครงการ Chiang Mai Festival City เพื่อสร้างแรงจูงใจ และกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยการประดับตกแต่งไฟ ILLUMINATION NIGHT การแสดงทางวัฒนธรรม การแสดงดนตรีพื้นเมือง การแสดงดนตรีจากศิลปินที่มีชื่อเสียง ทั้ง 11 วัน การออกร้านของสินค้าท้องถิ่น/อาหารท้องถิ่น การทำ Workshop ของเล่นจักรสานของท้องถิ่น กิจกรรม มูเตลู ดูดวง เช็คดวงรับปีใหม่ รวมถึงพิเศษสุดกับมินิคอนเสิร์ตจาก "BamBam - กันต์พิมุกต์ ภูวกุล" และการแสดงพลุสุดยิ่งใหญ่ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2567

         นอกจากนี้ ททท. ยังได้ร่วมกับพันธมิตรสนับสนุนการจัดงานเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 ประเทศไทย ในภูมิภาคต่างๆ ทั้งในเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศ ซึ่งจะสร้างความประทับใจ ความสุข และความสนุกสนานให้กับทุกคนอย่างแน่นอน โดยคาดว่ากิจกรรมเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 ประเทศไทย ช่วงวันหยุดพิเศษต่อเนื่องเป็นวันหยุดยาว 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2567 - 1มกราคม 2568 จะสร้างรายได้การท่องเที่ยวกว่า 62,000 ล้านบาท จากผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 4.41 ล้านคน-ครั้ง และจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงดังกล่าวกว่า 1.56 ล้านคน

         พลตำรวจโทศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า รัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้มีการรักษาความปลออดภัยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 อย่างเข้มงวด ตลอดจนป้องกันมิจฉาชีพฉวยโอกาสก่อเหตุในพื้นที่ที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวหนาแน่น โดยกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้กำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว จัดกำลังพล ยานพาหนะ และอุปกรณ์ ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดห้วงระยะของการจัดงาน เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสียให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนฉลองเทศกาลปีใหม่อย่างมีความสุข สะดวก ปลอดภัย รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และมีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568

       นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ICONSIAM พร้อมแล้วกับงาน ICONSIAM Amazing Thailand Countdown 2025 ณ ลานริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม ในวันที่ 29 - 31 ธันวาคม 2567 กรุงเทพมหานคร โดยศิลปินระดับไอคอนิคจะมาร่วมสร้างปรากฏการณ์ด้วยโชว์สุดเอ็กซ์คลูชีฟ รวมถึงสุดยอดศิลปินบนเวที เพื่อเฉลิมฉลองช่วงเวลาพิเศษ ปิดท้ายการสร้างปรากฏการณ์เคาท์ดาวน์ระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยายิ่งใหญ่ส่งท้ายปี ด้วยการแสดงพลุรักษ์โลกที่ยาวที่สุดในประเทศไทย กับเทศนิคและสีสันแปลกตาที่มีรัศมีการชมได้มากกว่า 5 กิโลเมตร ภายใต้ธีม "Celebrating the Everlasting Legacy of Siam" ที่สะท้อนถึงสีสัน ความงดงามของมรดกและภูมิญญาไทย สร้างความตื่นตาตื่นใจเหนือโค้งน้ำเจ้าพระยาอย่างน่าประทับใจ

         ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท เซ็นหรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) เตรียมสร้างปรากฏการณ์ความสุขส่งส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ กับงาน Centralworld Bangkok Countdown 2025 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แลนด์มาร์กสำคัญใจกลางกรุงเทพฯ ที่จะทำให้การเฉลิมฉลองข้ามปี ให้ปีนี้พิเศษยิ่งกว่าที่เคย กับการแสดงดนตรีจากศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลก ต้นคริสต์มาส Art Toys และไฮไลต์พลุเฉลิมลอง และ Special Performance อีกมากมาย

           ทั้งนี้ สำหรับกิจกรรมเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 ประเทศไทย ที่ ททท. ดำเนินการจัดกิจกรรมมีรายละเอียดและกิจกรรมภายในงาน ดังนี้

           งาน "Amazing Thailand Countdown 2025" เนรมิตปรากฏการณ์ในพื้นที่สวนนาคราภิรมย์ ในวันที่ 29 - 31 ธันวาคม 2567 กรุงเทพมหานคร ให้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่า 2567 ต้อนรับปีใหม่ 2568 ที่ยิ่งใหญ่ ในการสร้างรอยยิ้ม A LAND OF SMILES A PARADISE TO EXPLORE ภายในงานจัดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของความเป็นไทยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม Work shop ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม การออกบูธจำหน่ายอาหารจากร้านเด็ด ร้านดัง และสินค้าจากชุมชนใกล้เคียง และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว พร้อมกับเติมเต็มบรรยากาศแห่งความสุขและสนุกส่งท้ายปี ด้วยการแสดงทางวัฒนธรรมไทยและการแสดงร่วมสมัยประยุกต์ การบรรเลงเพลงจากออร์เคสตร้า River Symphony Orchestra และการขับกล่อมบรรยากาศด้วยบทเพลงจากศิลปินและนักแสดงชื่อดัง ได้แก่ URBOYTJ, ลุลา, Burin, YourMOOD, ETC, INDIGO,The Rube, INSTINCT, โบว์-เมลดา สมศรี และ ลิเดีย - ศรัณย์รัชต์ ดีน และ THE TOY ณ เวทีลอยน้ำบนแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงาม การแสดงโดรนแปรอักษร ก่อนจะปิดท้ายกับกิจกรรมไฮไลต์ร่วมนับถอยหลังก้าวเข้าสู่ปีใหม่ 2568 ไปพร้อมกับการแสดงพลุสุดยิ่งใหญ่อลังการควบคู่ไปกับนวัตกรรมแสง เสียง และสื่อประสมที่ทันสมัย เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวอันอัศจรรย์ใหม่ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวที่สวยงามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยาวต่อเนื่องกว่า 7 นาที โดยแบ่งเป็น 9 องก์ ประกอบด้วย 1) พลุแห่งการท่องเที่ยวไทยแบบยั่งยืน 2) พลุแห่งจินตนาการและความสร้างสรรค์ 3) พลุสวรรค์ของนักท่องเที่ยว 4) พลุ การให้เกียรติซึ่งกันและในความแตกต่าง 5) พลุแห่งสยามเมืองยิ้ม 6) พลุแห่งความทรงจำอันงดงาม 2568 (Amazing Thailand Countdown 2025) 7) พลุแห่งความสงบสุข 8) พลุพร่างพราวรัก และ 9) พลุแห่งความสุขอันไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อส่งมอบความสุขต้อนรับปีใหม่ 2568 อีกทั้งในโอกาสเป็นสิริมงคลต้อนรับแสงแรกของปี ในวันที่ 1 มกราคม 2568 เวลา 06.00 - 08.00 น. ณ วัดอรุณราชวรารามวรมหาริหาร กับกิจกรรมงานทำบุญตักบาตร เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ เพื่อเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามให้คงอยู่สืบไป และสนับสนุนให้พุทธศาสนิกชน นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวนกว่า 68 รูป

        งาน "Amazing Chiang Mai Countdown 2025" ในวันที่ 21 - 31 ธันวาคม 2567 ณ อุทยานราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "แบบ ILLUMIDESTINATION : เมื่อแสงสุดท้ายมาบรรจบกับแสงแรกแห่งปี" กิจกรรมแห่งความสุขที่สื่อถึงอัตลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ ด้วยสวนแสงอันวิจิตรงดงามผสมผสานระหว่างงานศิลป์เทคนิคสื่อสมัยใหม่ แสง เสียงอันตระการตา เพื่อเฉลิมฉลองคืนข้ามปี ด้วยประสบการณ์สุดประทับกับอาหารและเครื่องดื่มในบรรยากาศสวยๆ กลางอุทยานหลวง สนุกสนานกับกิจกรรม Wokshop สินค้า Chic Craft อาทิ จักสานของเล่นไทย คุณค่าที่ไม่ลืมเลือน, ตัดตุง การสร้างมิติงานคราฟท์จากกระดาษสี, กิจกรรมมูเตลู ดูดวง "มูดี มูเด้ง" เช็คดวงสุดปัง พร้อมเสริมมงคลชีวิตด้วยเครื่องรางสไตล์สายมู โดยหมอดูที่มีชื่อเสียงจากหลากหลายศาสตร์พยากรณ์ กิจกรรม Check Point เก็บแต้มจากจุดเช็คอินสุดฮิตในจังหวัดเชียงใหม่ แล้วนำมาแลกรับลาย Limited จำนวนจำกัดได้ก่อนใคร เพลิดเพลินกับการแสดงพื้นบ้านหลากหลายแนว โดยศิลปินท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง ที่สะท้อนเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชาวล้านนา และการแสดงศิลปวัฒนธรรมกับกับกลิ่นอายแบบล้านนา เต็มอิ่มกับการแสดงมินิคอนเสิร์ตสุดมันส์ส่งท้ายปีจากศิลปินและดาราที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ ได้แก่ อะตอม ชนกันต์, Season Five, ETC, DGERRAD, MEAN, ตู่ ภพธร, ออฟ ปองศักดิ์, PAUSE, ไอซ์ ศรัณยู, Slapkiss, ซานิ, ปอ อรรณพ, สงกรานต์ รังสรรค์ และร่วมเค้าท์ดาวน์ส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่กับ BamBam และพลุสุดอลังการในค่ำคืนแห่งแห่งแสง "llumidestination" ประกอบเพลงพระราชนิพนธ์ "พรจากฟ้า"

        นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับพันธมิตรสนับสนุนการจัดกิจกรรมในพื้นที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานคร เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศ อาทิ งาน ICONSIAM Amazing Thalland Countdown 2025 ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 29 - 31 ธันวาคม 2567, งาน Centralworld Bangkok Countdown 2025 ในวันวันที่ 31ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, งาน "EM DISTRICT WINTER WONDERLAND 2024 : เอ็ม ดิเทริค วินเทอร์ วันเดอร์แลนด์ 2024" ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 - 10 มกราคม 2568 ณ เอ็ม ดิสทริค (ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และเอ็มสเฟียร์) กรุงเทพมหานคร, งาน LET'S CELEBRATE 2025 ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 - 5 มกราคม 2568 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี กรุงเทพมทานคร, งาน Neon Countdown ในวันที่ 30 ธันวาคม 2567 - 3 ธันวาคม 2567 ณ สวนสนุกวันเดอร์เวิลด์ กรุงเทพมหานคร, งาน Siam Paragon The Magical Celebration ในวันที่ 23 - 31ธันวาคม 2567 ณ บริเวณ Park Paragon ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพมหานคร, งาน Hua Hin Beach Countdown 2025 ในวันวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ณ ริมหาดบริเวณโรงแรม Intercontinental Hua Hin Resort จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, งาน "The New Chapter of Journey Celebrating 9th Anniversany" วันที่ 10 ธันวาคม - 2 มกราคม 2568 ณ ลานเดอะ สแควร์ บลูพอร์ต หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีชันธ์, งาน Phitsanulok Countdown Festive Night 2025 ในวันที่ 25 - 31ธันวาคม 2567 ณ บริเวณสวนสาธารณะกลางเมือง จังหวัดพิษณุโลก, งาน "มหาสารคามเคาท์ดาวน์ เฟสติวัล ซอฟท์พาวเวอร์อีสานใต้ปี 2025" ในวันที่ 20 ธันวาคม 2567 - 1มกราคม 2568 ณ ตลาดต้นสน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม, งาน Chaiyaphum's Countdown 2025 ในวันที่ 29 ธันวาคม - 31ธันวาคม 2567 ณ มอหินขาว จังหวัดชัยภูมิ, งาน "Udon Countdown 2025" ในวันที่ 30 - 31ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์การค้ายูดีทาวน์ จังหวัดอุดรธานี, งานอ่าวมะขามป้อม เคาท์ดาวน์ 2025" ในวันที่ 28-31ธันวาคม 2567 ณ ท่าเรืออ่าวมะขามป้อม ตำบลกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง, งาน HATYAI COUNTDOWN 2025 ในวันที่ 29 ธันวาคม 2567-1 มกราคม 2568 ณ ถนนธรรมนูญวิถี, ถนนิพัทธ์อุทิศ 1, ถนนนิพัทธ์อุทิศ 3, สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

        การจัดงานในครั้งนี้ ททท.คาดว่าจะสร้างสรรค์ประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้แก่นักท่องเที่ยว นำไปสู่การเพิ่มการใช้จ่ายนักท่องเที่ยว และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในพื้นที่ของการจัดกิจกรรม เช่น โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร และผู้ให้บริการล่องเรือรับประทานอาหาร เป็นต้น และเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะเป็นหมุดหมายในการเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตลอดปี Amazing Thalland Grand Tourism and Sports Year 2025


วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2567

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจัดเต็ม ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน..

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจัดเต็ม ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ 

สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน..

       มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพผู้ยากไร้ พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการประชาชนฟรี พร้อมมอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท และสนับสนุนค่าพาหนะพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้รับขาเทียม ช่าง และอาสาสมัคร ในโครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ครั้งที่ 172 แก่ชาวหนองคาย

        ระหว่างวันที่ 16 – 20 ธันวาคม พ.ศ. 2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ห่วงใยเยาวชน ประชาชนผู้ยากไร้ และผู้พิการ มอบหมายคณะกรรมการมูลนิธิฯ ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย เร่งลดความเหลื่อมล้ำ มอบโอกาส สร้างชีวิต แก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน รวมมูลค่าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งดำเนินการกว่าเจ็ดแสนบาท

      โดยเมื่อวันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2567 นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ผู้ช่วยกรรมการ และ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย (จังหวัดที่ 16 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) จำนวน 21 ครัวเรือน พร้อมมอบจักรยาน จำนวน 50 คัน แก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 5 โรงเรียน เพื่อให้นักเรียนที่ประสบปัญหาในการเดินทางได้ยืมเรียน รวมถึงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าพาหนะแก่ผู้ปกครองได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร เรียนรู้การแบ่งปัน และดูแลรักษาสาธารณสมบัติร่วมกัน รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวหนองคายในครั้งนี้ทั้งสิ้น จำนวน 560,120 บาท (ห้าแสนหกหมื่นหนึ่งร้อยยี่สิบบาทถ้วน)

       นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังได้จัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่  โดยมี นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายสุรพล แก้วอินธิ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชนเป็นประธานร่วมในพิธี โดยมี มูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี รวมทั้ง ประชาชน เยาวชน ผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งร่วมมอบและสร้างสีสันภายในงาน ณ บริเวณหอประชุมที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย

      และวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2567 นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำทีมแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ลงพื้นที่ มอบค่าพาหนะ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ผ้าห่ม ปลากระป๋อง เส้นหมี่ขาว ทิชชูเปียก รองเท้าฟองน้ำ และขนม บรรจุถุงผ้าดิบ ให้แก่ผู้รับขาเทียม ช่างและอาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมโครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ครั้งที่ 172 รวมจำนวน 160 ชุด พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่เจ้าหน้าที่มูลนิธิขาเทียมอีก 50 ชุด คิดเป็นงบประมาณมูลค่าทั้งสิ้น 162,132.50 บาท (หนึ่งแสนหกหมื่นสองพันหนึ่งร้อยสามสิบสองบาทห้าสิบสตางค์) โดยมี นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย  เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต เลขาธิการมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กรรมการมูลนิธิขาเทียมฯ และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ ร่วมในพิธี ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย

        รวมงบประมาณการดำเนินภารกิจ 3 โครงการ เพื่อชาวหนองคายและผู้เข้าร่วมโครงการในรอบนี้ทั้งสิ้น 722,252.50 บาท (เจ็ดแสนสองหมื่นสองพันสองร้อยห้าสิบสองบาทห้าสิบสตางค์)

        ตลอดระยะเวลากว่า 114 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และเฟซบุ๊ก แฟนเพจ  www.facebook.com/atpohtecktung

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

ททท. จับมือ “ไทยรัฐกรุ๊ป” ต่อยอดแคมเปญ สุขทันที ที่เมืองน่าเที่ยว ด้วย “สุขทันที ที่เมืองน่าเที่ยว มุมใหม่” ภายใต้งาน “เชียงรายสายอาร์ตสุดขอบ”

ททท. จับมือ “ไทยรัฐกรุ๊ป” ต่อยอดแคมเปญ สุขทันที ที่เมืองน่าเที่ยว 

ด้วย “สุขทันที ที่เมืองน่าเที่ยว มุมใหม่” 

ภายใต้งาน “เชียงรายสายอาร์ตสุดขอบ”

        การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือ “ไทยรัฐกรุ๊ป” ต่อยอดแคมเปญ สุขทันที ที่เมืองน่าเที่ยว ด้วย “สุขทันที ที่เมืองน่าเที่ยว มุมใหม่” ภายใต้งาน “เชียงรายสายอาร์ตสุดขอบ”แสดงศักยภาพเมืองรอง ชูจุดเด่นเมืองแห่งศิลปะ งานศิลป์ และวัฒนธรรม เชิญชวนนักท่องเที่ยวแวะถ่ายรูปจุดเช็คอินใหม่ของจังหวัดเชียงราย กับภาพกราฟฟิตี้ ในชื่อ Concept : Chiang rai art in your eyes บริเวณถนนพ่อขุน เป็นอีก Must Seek in Chiang Rai


         นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วย นางสาวจิตสุภา วัชรพล ผู้บริหารไทยรัฐกรุ๊ป ร่วมแคมเปญ สุขทันที ที่เมืองน่าเที่ยว ด้วย “สุขทันที ที่เมืองน่าเที่ยว มุมใหม่” ภายใต้งาน “เชียงรายสายอาร์ตสุดขอบ” โดยมีนายราชัน มีน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายนนท์ถพัฒน์ ถะปฎิวงค์ ผู้อำนวยการกองสวัสดิการและสังคมเทศบาลนครเชียงราย และนายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย ให้เกียรติเข้าร่วมด้วย เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2567


          นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ ได้มีการสร้างแลนด์มาร์คใหม่บริเวณถนนพ่อขุน จังหวัดเชียงราย อยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองของเชียงรายที่มีคนมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในช่วงเทศกาลในแต่ละปี เป็นจุดถ่ายทอดมุมมองใหม่ผ่านความเป็นสตรีทอาร์ท ภายใต้คอนเซปต์ภาพกราฟฟิตี้ Chiang rai art in your eyes เรียกว่าเป็น Must Seek ใน 5 Must do in Chiang Rai นำเสนอภาพเด็กผู้หญิง เด็กผู้ชาย และดวงตา เสมือนนักท่องเที่ยว และภาพรถที่สื่อถึงการเดินทางท่องเที่ยวเชียงราย และในส่วนของแบคกราวน์ด้านหลังจะสื่อถึงสถานที่ท่องเที่ยว ของเชียงรายที่คนในยุคนี้รู้จักและยังนิยมมาท่องเที่ยว โดยมีตึกรามบ้านช่องที่มีลายกราฟฟิกตี้ เพื่อจะสื่อว่าเชียงรายไม่ว่าที่ไหนก็สามารถมีศิลปะความร่วมสมัยเก่าและยุคใหม่รวมกันทุกที่ของเมือง


       นอกเหนือจากนี้ ภายในงานได้นำเสนอเชียงรายในมุมมองใหม่ ที่มีมากกว่าแค่ธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังมีมิติใหม่ๆ สะท้อนความเป็นเมืองแห่งศิลปะร่วมสมัย และแหล่งรวมความคิดสร้างสรรค์ สามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวและสร้างภาพลักษณ์ที่หลากหลายตลอดระยะเวลาของการจัดงานจะมีกิจกรรมเชื่อมโยงผู้ประกอบการท้องถิ่น เช่น ตลาดงานฝีมือ ศิลปะชุมชน และคาเฟ่ รวมถึงส่งเสริมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่สะท้อนเอกลักษณ์เชียงราย รวมถึงการแสดงดนตรี และกิจกรรมเพ้นท์กระเป๋าผ้า เพื่อให้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน สามารถลดขยะเพื่อให้เกิดความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย


        ด้าน นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเชียงราย ได้กล่าวเชิญชวนนักท่องเที่ยวออกมาเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ สัมผัส 5 Must do in Chiang Rai ได้แก่ 

1. Must Taste ได้แก่ น้ำเงี้ยวเชียงราย , ชา , กาแฟ , สัปปะรดนางแล , เกาเหลาเลือดหมูจิงจูฉ่าย

2. Must Try ได้แก่ Chiang Rai Road Classic , Mae Salong Trail , ดอยช้างเทรล , เชียงรายมาราธอน , เชียงของ อัลตร้า มาราธอน

3. Must Buy ได้แก่ เครื่องเคลือบเวียงกาหลง , ผ้าทอไทลื้อ , ผ้าทอตีนจกเชียงแสน , ชา , กาแฟ


4. Must Seek ได้แก่ วัดร่องขุน , อุทยานศิลปวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง , โบราณสถานเชียงแสน , โครงการพัฒนาดอยตุง , หอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย 

5. Must See ได้แก่ งาน 10 ชาติพันธุ์แม่สาย, โลชิงช้า บ่อฉ่องตุ๊ , จุลกฐิน วัดท่าข้ามดอนชัย ชุมชนไทลื้อ , เทศกาลชิมชา ซากุระงาม วัฒนธรรมเผ่าและกาแฟดอยแม่สลอง , งานสีสันดอยตุง 

#สุขทันทีที่เมืองน่าเที่ยวมุมใหม่

#Chiangraiartinyoureyes

#5MustDoinChiangrai

#ททท.เชียงราย

วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2567

อบจ. ภูเก็ต ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ยกระดับเตรียมแผนรับมือสถานการณ์ “โนโรไวรัส” ระบาด

อบจ. ภูเก็ต ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข
ยกระดับเตรียมแผนรับมือสถานการณ์ “โนโรไวรัส” ระบาด
      องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) พร้อมด้วยเครือข่ายด้านสุขภาพในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ร่วมขับเคลื่อนการเตรียมความพร้อมรับมือกับเชื้อ “โนโรไวรัส” สาเหตุของโรคทางเดินอาหารอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งกำลังมีการระบาดในหลายเมืองของประเทศจีน โดยร่วมกับกรมควบคุมโรค กระรวงสาธารณสุข โดยการจัดเตรียมแผนรับมือสถานการณ์ระบาดของโรคในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากโรคดังกล่าวยังไม่มีวัคซีนและยารักษาที่เฉพาะเจาะจง ทั้งนี้ ยืนยันความพร้อมในฐานะศูนย์กลางการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน พร้อมเดินหน้าให้ข้อมูลและสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง

 

      นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต มีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดที่อาจลุกลามและส่งผลกระทบรุนแรง หากไม่มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม ดังนั้น จึงได้ร่วมกรมควบคุมโรค โดย นายแพทย์วิชาญ บุญกิติกร ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค มาให้ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโนโรไวรัสในประเทศจีน รวมถึงลักษณะของเชื้อและการแพร่กระจาย


 
        รวมทั้งการดำเนินมาตรการเชิงรุกของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ที่ได้วางมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันโรค และควบคุมการระบาดของโรคในพื้นที่ จึงได้เชิญภาคธุรกิจ และภาคประชาชนมารับทราบแนวทางมาตรการป้องกันและควบคุม เพื่อให้ภูเก็ตสามารถป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดหากพบมีการระบาดในพื้นที่ และพร้อมเป็นศูนย์กลางการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนอย่างต่อเนื่อง

 
         ทั้งนี้ นายเรวัต ได้มอบนโยบายเฝ้าระวังเชิงรุกแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความร่วมมือจากภาคธุรกิจโรงแรม และประชาชนในพื้นที่ กำชับให้สถานประกอบการต่างๆ สถานที่จำหน่ายอาหาร ทั้งร้านค้า แผงลอย ดูแลความสะอาดให้ปลอดภัยรวมถึงในแหล่งน้ำใช้ หากมีความจำเป็นที่จะต้องนำน้ำมาใช้ให้ ใส่คลอรีนก่อน อย่างไรก็ตาม สถานศึกษาให้เน้นมาตรการสุขาภิบาลอาหารในโรงเรียนอย่างเคร่งครัด ทำความสะอาดจุดเสี่ยงในโรงเรียน กำชับ รพ. ทุกแห่ง เตรียมยา เวชภัณฑ์ และเตียงให้พร้อมรองรับผู้ป่วยเพื่อให้จังหวัดภูเก็ตสามารถป้องกันและรับมือกับโรคระบาดที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

เชิญชม เทศกาลชมสวน 2567 (Flora Festival 2024) ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่

เชิญชม เทศกาลชมสวน 2567 (Flora Festival 2024)  ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568    ...